พังงา - น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ เด็กนักเรียนชั้น ม.1 วัย 12 ปี ไลฟ์แต่งหน้าจนกลายเป็นคนดัง รับรีวิวเครื่องสำอาง และงานโชว์ตัว เก็บเงิน 8 แสนสร้างบ้านให้พ่อแม่ได้ ขณะที่ผลการเรียนดี สอบได้ที่ 1 ของห้องเรียน
หลังจากเป็นข่าวดัง และมียอดกดไลก์ กดแชร์ไลฟ์สดการแต่งหน้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ เนสตี้ สไปร์ทซี่ ของเด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงา ล่าสุดวันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางที่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ 1 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นบ้านของ น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ เน็ตไอดอลชื่อดัง หรือ ด.ช.นิพิฐพงศ์ รักตน อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีพังงา ซึ่งขณะนี้กำลังมีชื่อเสียงในเรื่องของการแต่งหน้าไลฟ์สดผ่านสื่อโซเชียล จนสามารถสร้างรายได้ให้แก่ตัวเองจำนวนมาก จนสามารถซื้อบ้านให้พ่อแม่ได้อาศัย
น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ เป็นคนที่มีนิสัยรักสวยรักงามมาตั้งแต่ 4 ขวบ หรือ ตอนเรียนอนุบาล ช่วงเรียนชั้นประถม ชอบนำโทรศัพท์มือถือมาไลฟ์สดเกี่ยวกับเทคนิคการแต่งหน้า เมื่อช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ติดต่อให้น้องไลฟ์สดสินค้าประเภทเครื่องสำอาง และงานโชว์ตัวแสดงสินค้า จนสามารถเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง พร้อมสร้างบ้านราคา 800,000 บาท ให้พ่อ แม่ พี่สาว และญาติๆ ได้อาศัยอยู่ ซึ่งนอกจากจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการแต่งหน้าแล้ว น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ ยังเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่ง และมีความตั้งใจเรียนหนังสือจนสามารถสอบได้ที่ 1 ของห้อง
น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนขี้อาย แต่ด้วยนิสัยรักสวยรักงามชอบแต่งหน้าตั้งแต่จำความได้ เมื่อโตขึ้นจนเองได้ไลฟ์สด และรู้สึกว่าการไลฟ์สดไม่มีใครเห็น เนื่องจากมองในหน้าจอโทรศัพท์ก็มีเพียงเฉพาะหน้าของตนเองและคอมเมนต์ของผู้ที่ติดตาม จึงทำได้โดยไม่อายใคร ส่วนใหญ่ก็จะไลฟ์สดกับพี่สาว จนกระทั่งยอดผู้ติดตามจำนวนมาก ต่อมา มีผู้ติดต่อว่าจ้างให้ทำงาน จึงเล่าให้แม่ฟัง และให้ผู้ว่าจ้างติดต่อกับแม่ตนเอง โดยแม่จะย้ำว่าทำงานได้แต่อย่าให้เสียการเรียน เมื่อได้ทำก็รู้สึกสนุกกับงานที่ทำ จนต่อมาสามารถเก็บเงินได้จึงสร้างบ้านให้พ่อ แม่ เนื่องจากเห็นว่าบ้านหลังเก่าทรุดโทรม
ด้าน นางสายลม รักตน แม่ของน้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ กล่าวว่า น้องเนส เป็นลูกคนสุดท้อง ตอนเล็กๆ น้องชอบเล่นตุ๊กตา แม่พยายามซื้อฟุตบอล รถของเล่น ของเล่นอย่างอื่นที่เด็กผู้ชายชอบ แต่น้องเนสไม่ชอบ จนกระทั่งมาแต่งหน้าทาปาก ตอนอยู่ชั้นอนุบาล ตนเองเห็นว่าควบคุมไม่อยู่จึงปล่อยตามใจลูก
จากนั้นก็เห็นว่าน้องเนส ชอบไลฟ์สดการแต่งหน้า จนมีคนติดต่อเข้ามาเพื่อให้รีวิวสินค้า ตนเองจึงกลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวน้องเนส ส่วนตนเองต้องการให้น้องเนสเรียนเป็นหลัก ทำงานเป็นรอง พบว่าการเรียนเป็นลำดับต้นๆ ของห้องอยู่ตนเองก็ไม่กังวลมากนัก แต่ถึงเวลาเรียนก็ต้องเรียน ตอนนี้เพิ่มคิวเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนด้วย ส่วนรับงานเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น
หลังจากเป็นข่าวดัง และมียอดกดไลก์ กดแชร์ไลฟ์สดการแต่งหน้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ เนสตี้ สไปร์ทซี่ ของเด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงา ล่าสุดวันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางที่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ 1 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นบ้านของ น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ เน็ตไอดอลชื่อดัง หรือ ด.ช.นิพิฐพงศ์ รักตน อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีพังงา ซึ่งขณะนี้กำลังมีชื่อเสียงในเรื่องของการแต่งหน้าไลฟ์สดผ่านสื่อโซเชียล จนสามารถสร้างรายได้ให้แก่ตัวเองจำนวนมาก จนสามารถซื้อบ้านให้พ่อแม่ได้อาศัย
น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ เป็นคนที่มีนิสัยรักสวยรักงามมาตั้งแต่ 4 ขวบ หรือ ตอนเรียนอนุบาล ช่วงเรียนชั้นประถม ชอบนำโทรศัพท์มือถือมาไลฟ์สดเกี่ยวกับเทคนิคการแต่งหน้า เมื่อช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ติดต่อให้น้องไลฟ์สดสินค้าประเภทเครื่องสำอาง และงานโชว์ตัวแสดงสินค้า จนสามารถเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง พร้อมสร้างบ้านราคา 800,000 บาท ให้พ่อ แม่ พี่สาว และญาติๆ ได้อาศัยอยู่ ซึ่งนอกจากจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการแต่งหน้าแล้ว น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ ยังเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่ง และมีความตั้งใจเรียนหนังสือจนสามารถสอบได้ที่ 1 ของห้อง
น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนขี้อาย แต่ด้วยนิสัยรักสวยรักงามชอบแต่งหน้าตั้งแต่จำความได้ เมื่อโตขึ้นจนเองได้ไลฟ์สด และรู้สึกว่าการไลฟ์สดไม่มีใครเห็น เนื่องจากมองในหน้าจอโทรศัพท์ก็มีเพียงเฉพาะหน้าของตนเองและคอมเมนต์ของผู้ที่ติดตาม จึงทำได้โดยไม่อายใคร ส่วนใหญ่ก็จะไลฟ์สดกับพี่สาว จนกระทั่งยอดผู้ติดตามจำนวนมาก ต่อมา มีผู้ติดต่อว่าจ้างให้ทำงาน จึงเล่าให้แม่ฟัง และให้ผู้ว่าจ้างติดต่อกับแม่ตนเอง โดยแม่จะย้ำว่าทำงานได้แต่อย่าให้เสียการเรียน เมื่อได้ทำก็รู้สึกสนุกกับงานที่ทำ จนต่อมาสามารถเก็บเงินได้จึงสร้างบ้านให้พ่อ แม่ เนื่องจากเห็นว่าบ้านหลังเก่าทรุดโทรม
ด้าน นางสายลม รักตน แม่ของน้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ กล่าวว่า น้องเนส เป็นลูกคนสุดท้อง ตอนเล็กๆ น้องชอบเล่นตุ๊กตา แม่พยายามซื้อฟุตบอล รถของเล่น ของเล่นอย่างอื่นที่เด็กผู้ชายชอบ แต่น้องเนสไม่ชอบ จนกระทั่งมาแต่งหน้าทาปาก ตอนอยู่ชั้นอนุบาล ตนเองเห็นว่าควบคุมไม่อยู่จึงปล่อยตามใจลูก
จากนั้นก็เห็นว่าน้องเนส ชอบไลฟ์สดการแต่งหน้า จนมีคนติดต่อเข้ามาเพื่อให้รีวิวสินค้า ตนเองจึงกลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวน้องเนส ส่วนตนเองต้องการให้น้องเนสเรียนเป็นหลัก ทำงานเป็นรอง พบว่าการเรียนเป็นลำดับต้นๆ ของห้องอยู่ตนเองก็ไม่กังวลมากนัก แต่ถึงเวลาเรียนก็ต้องเรียน ตอนนี้เพิ่มคิวเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนด้วย ส่วนรับงานเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น
