ชุมพร - เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาตาวัย 72 ปี กับหลานสะใภ้วัย 15 ปี นำเรือประประมงชายฝั่งออกไปกู้ลอบปู ถูกพายุฝนกระหน่ำจนเรือล่ม สูญหายนาน 2 วัน ยังไม่รู้ชะตากรรม
วันนี้ (21 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำชุมพร พร้อมเรือตรวจการณ์ประมงทะเลชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังกันออกค้นหาผู้ประสบภัยเรือประมงชายฝั่งถูกพายุฝนพัดกระหน่ำจนเรือจมหลายลำ และมีผู้สูญหาย 2 คน ทราบชื่อคือ นายชั้น ศิลปะชัย อายุ 72 ปี และ น.ส.รัชนีวรรณ สืบพันธุ์ อายุ 15 ปี หลานสะใภ้ อยู่บ้านเลขที่ 325 หมู่ 9 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร บริเวณหมู่เกาะเสม็ด เกาะแรด เกาะละวะ ห่างจากฝั่งประมาณ 3-5 กิโลเมตร ในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างตำบลปากน้ำชุมพร ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ที่คาดว่าเรือประมงลำดังกล่าวถูกพายุฝนคลื่นลมซัดกระหน่ำจนจมระหว่างนำเรือออกหาปลา จนกระทั่งบ่ายไม่พบจึงยุติการค้นหา เนื่องจากช่วงบ่ายท้องฟ้าเริ่มมีเมฆฝนและคลื่นลมแรง
ร.ต.ท.วสุ บัวจีน รอง สว.สถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีเรือประมงชายฝั่งถูกพายุพัดกระหน่ำจนเรือจมบริเวณหมู่เกาะดังกล่าว สามารถกู้เรือกลับมาได้ 1 ลำ ส่วนลูกเรือชาวประมงด้วยกันช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ต่อมาช่วงบ่าย ได้รับแจ้งว่ายังมีเรือประมงชายฝั่งสูญหายไปอีก 1 ลำ พร้อมกับชาวประมง 2 คน
จึงประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาจนกระทั่งเย็นก็ไม่เจอจึงกลับเข้าฝั่ง และวันนี้ก็ได้ออกค้นหาในรัศมีที่กว้างออกไปอีกแต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ได้มีประกาศเตือนเรื่องพายุดีเปรสชันซึ่งจะทำให้ทะเลมีพายุฝน และคลื่นลมแรง จึงขอแจ้งไปยังชาวประมงโดยเฉพาะเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งเพราะจะเกิดอันตรายขึ้นได้
ด้าน นายพรชัย พันธุ์เสือ อายุ 63 ปี กล่าวว่า ตนในฐานะชุดกู้ภัยทางทะเลปากน้ำชุมพร และรู้จักกับผู้สูญหาทั้ง 2 คน เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.20 น.ของวันที่ 20 ตุลาคม ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากริมคลองปากน้ำชุมพร ได้เห็นนายชั้น และ น.ส.รัชนีวรรณ ซึ่งเป็นหลานสะใภ้ เดินผ่านมาเพื่อจะนำเรือออกไปกู้ลอบปูที่วางไว้บริเวณหน้าเกาะแรด ซึ่งตนก็ได้ทักทายพูดคุยกัน
แต่หลังจาก 2 ตาหลานได้นำเรือออกไปประมาณ 20 นาที ได้เกิดฝนตกหนัก และมีพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ซึ่งชาวประมงเรียกว่า “พายุหัวฝน” หลังจากนั้นรู้ข่าวว่ามีเรือประมงชายฝั่งจมไปหลายลำ ส่วนลูกเรือได้รับการช่วยเหลือเข้าฝั่งปลอดภัย ส่วนตาชั้น และ น.ส.รัชนีวรรณ ได้หายไปทั้งเรือทั้งคนจนผ่านไป 2 วันแล้วยังค้นหาไม่พบ
วันนี้ (21 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำชุมพร พร้อมเรือตรวจการณ์ประมงทะเลชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังกันออกค้นหาผู้ประสบภัยเรือประมงชายฝั่งถูกพายุฝนพัดกระหน่ำจนเรือจมหลายลำ และมีผู้สูญหาย 2 คน ทราบชื่อคือ นายชั้น ศิลปะชัย อายุ 72 ปี และ น.ส.รัชนีวรรณ สืบพันธุ์ อายุ 15 ปี หลานสะใภ้ อยู่บ้านเลขที่ 325 หมู่ 9 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร บริเวณหมู่เกาะเสม็ด เกาะแรด เกาะละวะ ห่างจากฝั่งประมาณ 3-5 กิโลเมตร ในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างตำบลปากน้ำชุมพร ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ที่คาดว่าเรือประมงลำดังกล่าวถูกพายุฝนคลื่นลมซัดกระหน่ำจนจมระหว่างนำเรือออกหาปลา จนกระทั่งบ่ายไม่พบจึงยุติการค้นหา เนื่องจากช่วงบ่ายท้องฟ้าเริ่มมีเมฆฝนและคลื่นลมแรง
ร.ต.ท.วสุ บัวจีน รอง สว.สถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีเรือประมงชายฝั่งถูกพายุพัดกระหน่ำจนเรือจมบริเวณหมู่เกาะดังกล่าว สามารถกู้เรือกลับมาได้ 1 ลำ ส่วนลูกเรือชาวประมงด้วยกันช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ต่อมาช่วงบ่าย ได้รับแจ้งว่ายังมีเรือประมงชายฝั่งสูญหายไปอีก 1 ลำ พร้อมกับชาวประมง 2 คน
จึงประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาจนกระทั่งเย็นก็ไม่เจอจึงกลับเข้าฝั่ง และวันนี้ก็ได้ออกค้นหาในรัศมีที่กว้างออกไปอีกแต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ได้มีประกาศเตือนเรื่องพายุดีเปรสชันซึ่งจะทำให้ทะเลมีพายุฝน และคลื่นลมแรง จึงขอแจ้งไปยังชาวประมงโดยเฉพาะเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งเพราะจะเกิดอันตรายขึ้นได้
ด้าน นายพรชัย พันธุ์เสือ อายุ 63 ปี กล่าวว่า ตนในฐานะชุดกู้ภัยทางทะเลปากน้ำชุมพร และรู้จักกับผู้สูญหาทั้ง 2 คน เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.20 น.ของวันที่ 20 ตุลาคม ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากริมคลองปากน้ำชุมพร ได้เห็นนายชั้น และ น.ส.รัชนีวรรณ ซึ่งเป็นหลานสะใภ้ เดินผ่านมาเพื่อจะนำเรือออกไปกู้ลอบปูที่วางไว้บริเวณหน้าเกาะแรด ซึ่งตนก็ได้ทักทายพูดคุยกัน
แต่หลังจาก 2 ตาหลานได้นำเรือออกไปประมาณ 20 นาที ได้เกิดฝนตกหนัก และมีพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ซึ่งชาวประมงเรียกว่า “พายุหัวฝน” หลังจากนั้นรู้ข่าวว่ามีเรือประมงชายฝั่งจมไปหลายลำ ส่วนลูกเรือได้รับการช่วยเหลือเข้าฝั่งปลอดภัย ส่วนตาชั้น และ น.ส.รัชนีวรรณ ได้หายไปทั้งเรือทั้งคนจนผ่านไป 2 วันแล้วยังค้นหาไม่พบ