xs
xsm
sm
md
lg

รวบนักธุรกิจอินเดียหลบซ่อนตัว เปิดร้านสูทบนเกาะสมุยนาน 3 ปี ทำตัวเป็นมาเฟียไถเงินเพื่อนร่วมชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุราษฎร์ธานี - ตม.สุราษฎร์ธานี สนธิกำลังทหาร บุกรวบนักธุรกิจชาวอินเดีย กบดานทำธุรกิจบนเกาะสมุยนาน 3 ปี พบทำเป็นตัวเป็นมาเฟียพัวพันหลายคดี ถูกขึ้นเบล็กลิสต์ผลักดันออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.วัชนะ บวรบุญ ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า ตามปฏิบัติการ x ray out law foriegner ของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ทองคำ รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ด.ต.ธรรมนูญ แพน้อย ด.ต.พิศฐ์ศักดิ์ จันทโกมุท ผบ.หมู่งาน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังทหาร และตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเกอร์พรีต ชิง เบติ (MR.GURPREET SINGH BEDI) อายุ 49 ปี สัญชาติอินเดีย ถือหนังสือเดินทางเลขที่ Z2837505 ภายในบีเค สมุย เรสซิเด้นซ์ หลังสนามบินเกาะสมุย หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย

ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ ได้มีภรรยาชาวไทย และลูกๆ ของนายเกอร์พรีต ชิง เบติ ได้พยายามเข้ามาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อเปิดโอกาส และถ่วงเวลาให้ นายกอร์พรีต ชิง เบติ อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่หลงกล เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ทำให้ภรรยาชาวไทยถึงกับยอมนำตัว นายเกอร์พรีต ชิง เบติ ออกมาพบเจ้าหน้าที่ พร้อมนำหนังสือเดินทางมาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ พบว่า หนังสือเดินทางและวีซ่า สิ้นสุดอยู่ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2559 พบว่าอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยมานานกว่า 1,006 วัน

จากการสอบปากคำ พบว่า นายเกอร์พรีต ชิง เบติ มาทำธุรกิจเปิดร้านตัดเสื้อผ้าสูท และมีภรรยาเป็นคนไทย จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ธรรมดา มีพฤติกรรมชอบข่มขู่เพื่อนๆ ชาวอินเดีย และชาวเนปาล และเคยต้องคดีครอบครองอาวุธปืน บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน จนถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้าม ไม่สามารถต่อวีซ่าได้ จึงแอบซ่อนตัวอยู่กับภรรยา มีบุตรด้วยกัน เข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าว เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ทำให้ นายเกอร์พรีต ชิง เบติ หนุ่มอินเดียหัวร้อนถึงกับคอตก ถูกดำเนินคดี และรอผลักดันออกนอกราชอาณาจักร พร้อมขึ้นแบล็กลิสต์ตลอดไป หมดสิทธิอยู่กับครอบครัว

พ.ต.อ.วัชนะ บวรบุญ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ได้สั่งการและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการกวาดล้างจับกุมบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด Overstay พร้อมให้เจ้าหน้าที่ เพิ่มความเข้มออกตรวจสอบการแจ้งที่พักของคนต่างด้าวในเคหสถาน โรงแรม ตาม ม.38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

หากพบชาวต่างชาติที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด Overstay และที่หลบหนีเข้ามาอาศัยในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งตัวดำเนินคดี พร้อมทำการขึ้นแบล็กลิสต์ ผลักดันออกนอกราชอาณาจักรทันที ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น