xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวโอดปลดพนักงาน หลังถูกจำกัดนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะสิมิลัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวโอด ต้องปลดพนักมากกว่า 100 คน หลังกรมอุทยานจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะสิมิลัน จ.พังงา เหลือวันละ 1 ลำต่อ 1 บริษัท ขึ้นได้ แค่ 35 คน ทำเดือดร้อนหนัก

จากกรณีกรมอุทยานฯ เดินหน้าจัดระเบียบ อช.หมู่เกาะสิมิลัน รับฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ ห้ามนักท่องเที่ยวพักค้างแรมบนเกาะ รวมทั้งจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 3,850 คนต่อวัน พร้อมห้ามเรือบรรทุกเกิน 100 คน วิ่งเข้าเขต อช.สิมิลัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.นี้ ล่าสุด ทางเจ้าของบริษัทนำเที่ยวชื่อดังได้ออกมาโพสต์เฟชบุ๊กส่วนตัวชื่อ Torphong Wongsathienchai โดยระบุ “ผมมีความเศร้าใจ จำเป็นต้องขอให้พนักงานลาออก ในเบื้องต้นจำนวนประมาณ 120 คน ทั้งตำแหน่งกัปตัน เด็กเรือ ไกด์ แม่บ้าน พนักงานท่าเรือ พนักงานครัว ด้วยความเจ็บปวดใจ เสียใจ และไม่มีทางเลือกอื่น เท่าที่ได้คุยกับบริษัทอื่นๆ ก็กำลังประสบวิกฤต และมีความจำเป็นต้องทำเช่นเดียวกันหลายสิบแห่ง

ในสถานการณ์บ้านเมืองที่การท่องเที่ยวถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ร้ายทำลายทรัพยากร จึงถูกปิด จำกัด และมีมาตรการแบบฉุกละหุกก่อนจะเปิดฤดูท่องเที่ยวเพียงไม่กี่วัน เรายอมรับในการตัดสินใจนั้นของผู้มีอำนาจ แม้จะพยายามขอความเห็นใจ แต่ก็ไม่สามารถมีทางออกร่วมกันได้ เราได้เพียงเข้าไปนั่งฟังการประชุม ความเห็นแทบจะไม่ได้ถูกรับฟัง เราเห็นด้วยกับการจำกัดจำนวนคน แต่แบบมีแผน ค่อยเป็นค่อยไป ลดไปเลยปีละ 20% ตลอด 3 ปีข้างหน้า ยกเลิกค้างคืนก็เห็นด้วย แต่มาตรการตอนนี้หนักหนาสาหัสมาก

การจำกัดที่สิมิลัน ให้โควตา 35 คน และถ้าโชคดีจองตั๋วได้ ก็ไม่ให้ออกเรือได้เกิน 70 คน และถ้าโชคดีได้ตั๋วมาเพิ่มเกิน 2 ลำ ก็ห้ามใช้เรือของบริษัทนั้นๆ ให้ไปเช่าจากบริษัทอื่น เส้นทางอื่นก็เกิดความไม่แน่นอนในหลายประการ จึงจำเป็นต้องปลดพนักงานที่เหลือออก และจะหางานต่อที่ไหน ต้องย้ายถิ่นฐานจากบ้านเกิดไปทำอะไร ยังน่าเป็นห่วง

ส่วนผมก็มีหน้าที่ไปคุยต่อกับธนาคารครับ 3 ปีก่อนสิมิลัน มีบริษัทเพียงสิบกว่าแห่ง เราเคยเสนอให้มีการจำกัดแต่ไม่เกิดขึ้น สามปีต่อมากลายเป็น 53 บริษัท อุทยานแถลงวันนี้ว่า มีบริษัทที่เดินเรือจริงๆ เพียง 30 บริษัท อีกประมาณ 20 กว่าบริษัท ไม่ได้ดำเนินการเอง หรือเป็นเรือเช่า อาจมาให้บริการช่วงเทศกาลระยะเวลาสั้นๆ แล้วลงทะเบียนไว้ก็ได้สิทธิ และโควตาเท่ากับบริษัทที่ทำมาเป็นสิบปีงานทะเลทำเป็นงานหลัก

แม้เราจะมีเรือนับ 10 ลำ ก็ได้สิทธิเท่ากับบริษัทขาจร ที่มีเรือลำเดียว อุทยานต้องแจกโควตาให้แม้จะไม่ได้ทำจริงๆ เพราะไม่งั้นกลัวโดนบริษัทขาจรฟ้องครับ ส่วนพวกเราได้แต่นั่งทำใจ บริษัทที่พวกเราสงสัยว่าเป็นนอมินีต่างชาติ อุทยานบอกเราว่าไม่ใช่หน้าที่ และไม่สามารถช่วยได้

ผลกระทบต่อชาวบ้านที่ตามมาจะมากมายมหาศาล ลูกโซ่วงกว้างเกินกว่าจะคาดคิดครับ หลายคนบอกว่า นี่เป็นข่าวดีของเกาะต่างๆ ผมเห็นว่าไม่ใช่ข่าวดีสำหรับสิ่งแวดล้อมนะครับ เพราะนักท่องเที่ยวย้ายที่ ผลกระทบก็ไปตกอีกที่ จากอดีตจนถึงในปัจจุบัน ยังไม่เห็นแผนการใดๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะเอามาใช้เพื่อแก้ปัญหาและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และยกระดับการท่องเที่ยวคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีการแข่งขันให้ทำท่องเที่ยวคุณภาพสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ ทำ CSR ได้โควตาเยอะ ก็ว่าไป

ปิดตาชัยก็มากระทบสิมิลัน วันนี้สิมิลันลำบากและหน่วยงานนั้นๆ ก็เป็นผู้เซ็นใบอนุญาตให้เข้ามาเองทั้งสิ้น โดยมิได้ตระหนักถึงการเติบโตจนเกินขีดในรอบหลายปี และยังแถลงภูมิใจผลงานการเก็บเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ และผมก็ยินดีที่อุทยานจะได้เงินไปจัดการบริหารแบ่งให้อุทยานอื่นๆ ที่ขาดแคลน เกาะทั้งหลาย หม้อข้าวแห่งนี้เรารักและดูแลอย่างยิ่ง ใครที่เคยมาจะเห็นว่าทีมงานบรีฟ ใส่ใจ และถ่ายทอดให้หวงแหนทะเลมากแค่ไหน เที่ยวยังไงไม่ขัดใจปะการัง เป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวต้องฟังทั้งภาษาไทย จีน ฝรั่ง รัสเซียเราทำจริงจังมาก อยากให้ร่วมมือแบบไหน อยากให้ทำอะไร เราพร้อมร่วมมือ เราพร้อมสนับสนุน แต่ผมก็เข้าใจเพราะสุดท้าย ต่างหน้าที่กัน กรมก็จำเป็นต้องทำ

พนักงานจำนวนมากอยู่ด้วยกันมานานจนเหมือนครอบครัว เค้าถามผมว่าครอบครัวเค้าจะอยู่ยังไง สามีเป็นกัปตันก็ตกงานแล้ว ตัวเองเป็นไกด์ก็ตกงาน เพิ่งมีลูกอายุ 3 เดือน และมีอีกหลายครอบครัว ผมน้ำตาไหล ขอโทษทุกคนจริงๆครับ รวมถึงน้องมอแกนจากเกาะสุรินทร์หลายสิบชีวิตที่ตกงาน ถามเราว่า ลูกเมียผมจะทำยังไงครับ ชาวมอแกนพานักท่องเที่ยวเข้าไปชื่นชมปะการัง แต่ตอนนี้เค้าไม่มีงานแล้วครับ

จะโทษการท่องเที่ยวทั้งหมดไม่ได้ เพราะอำนาจการจัดการบริหารนั้น ใครคือผู้บังคับใช้และดูแลครับ สุดท้าย การท่องเที่ยวเป็นแพะรับบาปถูกตราหน้าเป็นผู้ร้าย แล้วผู้รับผิดชอบนั้น ละเลยหรือทำอะไรอยู่ ปิดแล้วเป็นฮีโร่ แล้วระหว่างทางหลายปีที่ผ่านมา เราได้ใช้การจัดการดีแค่ไหนครับ ในพื้นที่จะทราบดี

ประชารัฐยังเป็นเพียงฝัน การมีส่วนร่วมของชาวบ้าน ประชาชน จังหวัด และกรมที่เกี่ยวข้องยังเลือนราง น่าจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วม จับมือหาทางออกและเดินไปด้วยกัน เพราะสุดท้าย เราต้องตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรให้มีผลกระทบน้อยที่สุด และเก็บรักษาให้ลูกหลาน แต่จะดีอย่างยิ่ง ถ้าเราสามารถใช้และรักษา เป็นตัวอย่างให้ลูกหลานได้ดูว่าการใช้ยั่งยืนคือแบบไหน นักวิชาการ กรม จังหวัดครับ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นประเทศดีขึ้น ทรัพยากรดีขึ้น แต่วันนี้ ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดคือคนครับ ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าคนเหล่านี้จะดำรงชีพ มีงาน อยู่ได้และมีชีวิตที่ดีไปส่งต่อให้ลูกหลานครับ

ทุกคนที่ท่องเที่ยว ต้องช่วยกันดูแลทะเล เป็นหูเป็นตา ไม่ให้อาหารปลา เจอขยะลอยก็เก็บขึ้นมา ไม่เก็บเปลือกหอย ถ้าเราทุกคนใส่ใจ ทะเลของเรา ประเทศของเราจะดีขึ้น เริ่มที่ตัวเรา ที่นี่คือบ้านของพวกเราทุกคน

ความหวังของเราริบหรี่ มีเพียงไม่กี่คนในประเทศนี้ที่จะช่วยได้ครับ แต่เสียงของพี่น้องทุกท่านที่เอาใจเป็นกลางและเชื่อว่าท่องเที่ยวกับอนุรักษ์ไปด้วยกันได้ จะเห็นใจช่วยส่งต่อและสื่อสารให้ผู้มีอำนาจลงมาช่วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
#ท่องเที่ยวกับอนุรักษ์ไปด้วยกันได้


กำลังโหลดความคิดเห็น