ปัตตานี - ปิดแล้วในที่สุด! “ตลาดนัดกรือเซะ” หลังพบมีปัญหาถูกร้องเรียนเรื่องการจัดการขยะ รวมทั้งเรื่องการกีดขวางทางสัญจร ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งชาวบ้านแต่อย่างใด
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้ามัสยิดกรือเซะ บนถนนทางหลวงสาย 42 และเกาะกลางถนน ซึ่งเป็นถนนทางแยกคู่ขนานเส้นทางไปยัง จ.นราธิวาส กับเส้นทางเข้าชมมัสยิดกรือเซะ ซึ่งเคยเป็นสถานที่ตั้งแผงขายตลาดนัด แต่ในวันนี้กลับเงียบเหงา เพราะไม่มีแม่ค้านำแผงมาวางจำหน่ายสินค้าเหมือนปกติที่เคยปฏิบัติมานานกว่า 10 ปี หลังจากที่กรมทางหลวง ได้มีการติดป้ายประกาศห้ามวางจำหน่ายสินค้า และเรี่ยไรบนทางหลวง โดยจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 44 และมาตรา 72 ที่ได้ระบุโทษสำหรับผู้ใดที่ฝ่าฝืนตามคำประกาศมาตรา 44 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ลงท้ายคำประกาศระบุที่มาจาก “แขวงการทางปัตตานี” ขึ้นเต็มพื้นที่ที่เคยจัดเป็นตลาดนัด จึงทำให้แม่ค้าไม่กล้านำข้าวของมาวางขาย
จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ตลาดนัดกรือเซะ มีชาวบ้านได้รวบรวมแม่ค้าจากพื้นที่ต่างๆ และจากคนในพื้นที่ให้นำข้าวของสินค้าหลากหลายมาวางจำหน่ายในบริเวณลานที่ดินของชาวบ้าน ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ โดยได้เช่าที่จ่ายเป็นรายเดือนเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว จนกระทั่งมีแม่ค้าสนใจนำสินค้ามาจัดวางจำหน่ายเพิ่มขึ้น และมีจำนวนมากขึ้น จากนั้นไม่กี่ปีต่อมา เจ้าของตลาดนัดเริ่มเบี้ยวค่าเช่ามาหลายปี ทำให้เจ้าของที่ดินดังกล่าวไม่พอใจ จึงไม่ยอมให้นำสินค้ามาวางขายในบริเวณที่ดินแปลงดังกล่าว ทำให้แม่ค้าต่างก็ออกมายึดริมถนนวางแผงเพื่อจำหน่ายสินค้าตามวัน และเวลาของตลาดนัด โดยมีเฉพาะเช้าวันอังคารจนถึงเที่ยง และทุกเย็นของวันพฤหัสบดี และวันเสาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เวลาบ่าย 3 โมงเย็น จนถึง 2 ทุ่ม
จากนั้นเมื่อมีคนนำสินค้ามาวางจำหน่ายจำนวนมากขึ้นๆ แม่ค้าจึงยึดเกาะกลางถนนไว้จำหน่าย และต่อมา ก็ยึดถนนทั้งสายเพื่อจัดเป็นพื้นที่วางของขายทุกวันเวลาของตลาดนัด ต่อเนื่องมา 3-4 ปีแล้ว จึงส่งผลกระทบต่อการใช้เส้นทางเพื่อสัญจร โดยเฉพาะรถของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะ กลับไม่มีเส้นทางเข้าออกไปโดยปริยาย
นอกจากนั้น การจัดวางจำหน่ายสินค้าในบริเวณมัสยิดกรือเซะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นหน้าตาของ จ.ปัตตานี ในรูปของ “ตลาดนัด” นั้นไม่เหมาะสม เพราะการจัดการดูแลความสะอาดเรียบร้อยไม่ดีเท่าที่ควร มีการนำหัวปลา เลือดปลาสดๆ ทิ้งลงคูระบายน้ำที่มีสภาพน้ำนิ่ง เพราะคูน้ำที่สร้างมารอบมัสยิดกรือเซะ กลับไม่มีที่ระบายน้ำทิ้ง จึงส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล แต่กลับไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ
นายสมชาติ คงศรี หัวหน้าทางหลวงหนองจิก กล่าวว่า การปิดตลาดนัดกรือเซะในครั้งนี้ ไม่ได้กลั่นแกล้งประชาชนที่มีอาชีพค้าขายในบริเวณตลาดนัดแห่งนี้ แต่เพื่อต้องการควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัย สงบเรียบร้อย สวยงาม และเพื่อความเป็นระเบียบ ซึ่งเป็นไปตามมติในที่ประชุมร่วมระหว่างเจ้าของตลาดนัด นายอำเภอเมือง ปลัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายก อบต.ตันหยงลุโล๊ะ ทหาร ตำรวจ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ได้มีการประชุมในครั้งล่าสุด ซึ่งในที่ประชุมได้เสนอให้มีการควบคุมพื้นที่ ห้ามนำข้าวของมาวางจำหน่ายในบริเวณดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด เพราะที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้สัญจรเส้นทาง ว่า เกิดปัญหารถติดยาวซ้ำซาก และความไม่สะอาด ที่มีขยะถุงพลาสติกถูกลมพัดจากตลาดนัดกระจายไปทั่วผิวถนน จึงก่อเกิดความสกปรก ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางหลวงที่รับผิดชอบพื้นที่ต้องคอยลงเก็บเกือบทุกอาทิตย์
หลังจากก่อนหน้านี้ ในที่ประชุมร่วมได้มอบหมายให้เจ้าของตลาดนัด ซึ่งมีชื่อเรียกกันว่า “แบลีแรมโบ้” ให้จัดหาพื้นที่ใหม่ หรือพื้นที่เดิมที่เคยใช้เปิดตลาดนัดในครั้งแรก โดยให้เวลาไปเคลียร์กับเจ้าของที่ 1 เดือน แต่เมื่อครบกำหนด 1 เดือน จึงเรียกมาประชุมชี้แจงเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าของตลาดนัดยืนยันว่า ไม่สามารถคุยกับเจ้าของที่ได้ จึงเป็นที่มาของการปิดตลาดนัดกรือเซะ นับตั้งแต่วันนี้ 6 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป และยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งชาวบ้านแต่อย่างใด