ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ‘เอกชัย อิสระทะ’ ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องสิทธิชุมชนเขาคูหา จ.สงขลา เขียนแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งว่าที่รองหัวหน้าพรรคสามัญชน หลังเกิดกระแสกรณีดรามาในแวดวงนักกิจกรรมและพัฒนาเอกชนกรณีที่เคยไปร่วมชุมนุมกับ กปปส. ซึ่งเจ้าตัวเคยออกแถลงการณ์ขอโทษและชี้แจงมาแล้วก่อนหน้านี้
วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกชัย อิสระทะ ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องสิทธิชุมชนเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้เขียนคำแถลงการณ์เรื่องในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ขอลาออกจากตำแหน่งว่าที่รองหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคสามัญชน”
ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณกัลยาณมิตรหลายท่านที่ได้ชวนมาร่วมงานกับพรรคสามัญชน เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ ด้วยความตั้งใจที่จะมีพรรคของคนชายขอบที่จะกำหนดอนาคตตนเอง ผมและพี่น้องทีมงานเขาคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้รับทราบเรื่องราวความเป็นมา หลักการ อุดมการณ์ของพรรค “ประชาธิปไตยฐานราก สิทธิมนุษยชน เท่าเทียมเป็นธรรม”
รวมถึงกลุ่มเพื่อนมิตรหลายกลุ่ม หลายเครือข่ายที่ได้เคยร่วมงานกันมา ก็เข้ามาร่วมก่อตั้งพรรคสามัญชน ทั้งเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่, เครือข่ายเดิน We Walk กรุงเทพ-ขอนแก่น จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคฯ และร่วมจัดเวทีคาราวานสามัญชนในพื้นที่ภาคใต้ขึ้นในวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ถัดจากนั้นก็ได้เข้าไปร่วมพูดคุย ประชุมกันในฐานะผู้ปฏิบัติงานของพรรคหลายครั้งจนถึงงานสมัชชาพรรคฯ ที่ จ.เลย ในวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๑
ก่อนหน้าสมัชชาฯ มีกระบวนการสรรหากรรมการพรรคฯ ซึ่งผมเองไม่ได้มีความประสงค์จะดำรงตำแหน่งสำคัญของพรรคใดๆ ด้วยเหตุที่ภาคใต้ยังพึ่งเริ่มต้น และผมเองก็ยังไม่ได้หารือเรื่องนี้กับภาคีเครือข่ายในภาคใต้อย่างเป็นทางการ ซึ่งในวงประชุมผู้ปฏิบัติงานคงยืนยันสิ่งที่ผมบอกนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมเองก็ไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้ต่อ
อีกทั้งไม่ได้ร่วมประชุมเตรียมงานสมัชชาฯ ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งในวันนั้นมีข้อเสนอ เรื่องตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ๔ คน ที่มาจาก ๔ ภาค และในที่ประชุมสมัชชาพรรคฯ ผมเองก็ไม่ได้โต้แย้งข้อเสนอดังกล่าว ปล่อยให้กระบวนการเลือกตั้งดำเนินการไป เพียงเพราะคิดว่า หากจะต้องทำเช่นนั้นแล้วช่วยให้พรรคสามารถดำเนินภารกิจไปได้ ก็พร้อมที่จะเป็นแรงกำลังหนึ่งที่จะมาช่วยกันขับเคลื่อนภารกิจพรรคในพื้นที่ภาคใต้ได้
หากแต่หลังจากเวทีสมัชชาพรรคฯ ผมได้ทราบว่ามีเพื่อนสมาชิกจำนวนหนึ่ง ยังมีข้อกังขาต่อภูมิหลังของผม กับการรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคฯ ในลักษณะที่ไม่ยอมรับ ซึ่งผมเองได้ออกแถลงการณ์อธิบายและแสดงรู้สึกต่อข้อค้างคาใจนั้นไปแล้ว หากแต่ยังคงพบว่าหลายท่านก็ยังไม่สบายใจต่อเนื้อหาในแถลงการณ์ดังกล่าว
ซึ่งอาจจะมีข้อผิดพลาดของลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผมพร้อมยอมรับและคงไม่แก้ต่างใดๆ ในโอกาสเดียวกันนั้น ทางพรรคก็ได้แสดงความรับผิดชอบ โดยการออกแถลงการณ์แสดงท่าทีของพรรค พร้อมกับได้กล่าวตำหนิผมต่อเรื่องนี้ไปแล้ว ในวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ ทางสื่อออนไลน์ และจากการพูดคุยในกลุ่มกัลยาณมิตร ผมรับรู้ และทราบถึงความห่วง กังวลที่มีต่อผมในเรื่องนี้ บ้างก็อยากให้อดทนเพื่อดำเนินภารกิจของพรรคให้ไปต่อได้ และบ้างก็อยากให้ผมถอนตัวจากพรรค ซึ่งผมได้ใช้เวลาใคร่ครวญระยะเวลาหนึ่งแล้ว มีบทสรุปว่า
๑.ผมพร้อมที่จะยอมรับความคิดเห็นของทุกฝ่ายทั้งคนที่ให้กำลังใจ และคนที่ยังสงสัยต่อแนวทาง หรืออุดมการณ์ทางการเมืองของผม หากแต่การสื่อสารในโลกออนไลน์มักเป็นไปตามความคิดอ่าน ความรู้สึกตามปรากฏการณ์ ซึ่งเราอาจจะยังไม่รู้จักกันดีพอที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมิตรสหายได้อย่างที่ควรจะเป็น
๒.ผมจะน้อมรับความคิดเห็นของมวลมิตรทั้งหลาย ที่ตักเตือน ให้สติ และให้กำลังใจกันอย่างมีมิตรไมตรี ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่เปิดกว้างทางความคิด และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนกับทุกท่านในทุกโอกาส หากจะนำไปสู่ประโยชน์ที่ดีกว่าต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง
๓.ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ผ่านมาของผม ความจริงที่ต้องยอมรับคือ เรามีชุดความคิด และชุดวิเคราะห์ และสถานการณ์รอบข้างที่แตกต่างกัน อันยากที่จะทำความเข้าใจต่อกัน
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวของผม ขอยืนยันอีกครั้งว่า ผมยังเป็นผู้ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังเชื่อและเข้าใจอยู่เสมอว่า การออกมาเรียกร้องทางการเมืองของประชาชนนั้น ก็คือส่วนหนึ่งของวิถีประชาธิปไตยที่พึงกระทำได้ และผมก็ไม่เชื่อว่าคนเหล่านั้นมุ่งหมายที่จะทำลายหรือทำร้ายระบอบประชาธิปไตยของประเทศนี้แต่อย่างใด
ซึ่งผมและเพื่อนมิตรที่ร่วมเคลื่อนไหวในภาคใต้ส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มีเจตจำนงจะให้ฝ่ายทหารทำการรัฐประหาร ซึ่งผมก็ทราบดีว่าเรื่องนี้มันยากที่จะอธิบาย แต่กระนั้นก็ตาม พวกเราทั้งหลายในภาคใต้ ก็ถูกกล่าวหาแบบเหมาเข่งไปแล้วอย่างไร้ความเป็นธรรม และบ้างก็ผลักำไสว่าพวกเราสมคบคิดกับพวกเผด็จการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมยอมรับได้ยาก และคงต้องรอกาลเวลาให้พิสูจน์ตัวเอง
๔.การอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคต่อไป คงไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ซึ่งผมตระหนักดีว่าสภาพการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับพรรคสามัญชนที่เพิ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัวเพื่อเป็นสถาบันทางการเมืองที่จะเป็นที่พึ่งของสังคมไทยในอนาคตภายหน้า
โอกาสนี้ ผมต้องขออภัยไปยังสมาชิกพรรคสามัญชนทุกท่าน ที่ได้ไว้วางใจในการเข้ามาทำงานให้แก่พรรค ขอให้กำลังใจสมาชิกพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ที่จะต้องดำเนินภารกิจของพรรคต่อไปอย่างแข็งขัน เพื่อนำพาความฝันของเราไปให้ถึงเป้าหมายตามที่พรรคสามัญชนตั้งไว้
สุดท้ายนี้ ผมขอลาออกจากตำแหน่งว่าที่รองหัวหน้าพรรคสามัญชน และสมาชิกพรรคสามัญชน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้การดำเนินการของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ ได้ขยับและอธิบายต่อสังคมในเรื่องอุดมคติ อุดมการณ์ของพรรคฯ ต่อไป ศรัทธา เชื่อมั่นสามัญชน, เอกชัย อิสระทะ, ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑