ฉก.พังงาร่วมทหารบุกจับร้านนวดคาราโอเกะในพื้นที่ หลังชาวบ้านร้องเรียน

พังงา - ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง พร้อมทหาร บุกจับร้านนวดและคาราโอเกะผิดกฎหมาย ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หลังชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบส่งเสียงดังรบกวน เปิดเกินเวลา และมีการค้าประเวณี

เมื่อเวลา 00.30 น.วันนี้ (28 ก.ย.) ภายใต้การอำนวยการ นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายมานิต เพียรทอง ปลัดจังหวัดพังงา สั่งการให้นายเจษฎา ธิติมุทา ปลัดป้องกันชุดเฉพาะกิจอำเภอเมืองพังงา ร.ต.อภิศักดิ์ บุญมา หัวหน้าชุดปฏิบัติการร้อยรักษาความสงบ ร.25 พัน 3 น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนันต.ลำแก่น นายจุติ ปานรักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 นำกำลังชุดเฉพาะกิจจังหวัดพังงา ฝ่ายปกครอง ชุดทหาร ร.25 พัน 3 กอ.รมน.จังหวัดพังงา อส. เข้าตรวจสอบร้านนวด 2 แห่ง ที่บริเวณ หมู่ 1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านหลายครั้ง ว่า ร้านนวดแผนโบราณในพื้นที่ลำแก่น ส่งเสียงดังรบกวน เปิดเกินเวลา และมีการค้าประเวณี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ แห่งแรกชื่อร้านนางฟ้า เลขที่ 58/6 หมู่ 1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณ เปิดบริการจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร้องเพลงคาราโอเกะ มีห้องให้บริการนวด โดยเปิดให้พนักงานนั่งดริงก์เพื่อบริการลูกค้าที่มาใช้บริการ

สอบถามพบเจ้าของร้านชื่อ น.ส.ธัญญารัตน์ ภูกัน อายุ 20 ปี มีพนักงานประจำร้าน จำนวน 7 คน หนึ่งในจำนวนทั้งหมดพบมีหญิงสาวชาวลาว จำนวน 1 คน จึงทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการขออนุญาตทำงาน เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ ส่วนหญิงสาวชาวลาว เอกสารการขออนุญาตทำงานหมดอายุ

ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าตรวจสอบร้านเช็คอิน เลขที่ 58/17 หมู่ 1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณ พร้อมให้บริการคาราโอเกะ มีห้องบริการนวด เปิดให้มีการจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมี น.ส.กรรณิกรณ์ สิงหัส อายุ 33 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน มีพนักงาน จำนวน 5 คน หนึ่งในจำนวนดังกล่าวพบชาวลาว จำนวน 1 คน จึงได้ตรวจสอบหลักฐานเอกสารการขออนุญาตทำงาน โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบการกระทำผิดกฎหมาย

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดพร้อมของกลาง เข้าบันทึกการจับกุมที่บริเวณที่ว่าการอำเภอท้ายเหมือง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ว่า ตั้งสถานบริการ ประเภทสถานที่จำหน่ายอาหารสุรา โดยมีดนตรี และปล่อยปละละเลยให้พนักงานหญิงนั่งกับลูกค้า ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 3(4) (ก) โดยไม่ได้รับอนุญาต แห่ง พ.ร.บ.สถานบริการ และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดเวลาห้ามขาย ตาม พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ส่วนหญิงสาวชาวลาวที่ทำงานภายในร้านนางฟ้า เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า เอกสารหลักฐานการขออนุญาตการทำงานภายในประเทศไทยหมดอายุ พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการขอปิดร้านทั้ง 2 แห่ง ตามอำนาจ คสช.