สุราษฎร์ธานี - สุดทน ขบวนพาเหรดคานิวัล สมุยเฟสติวัล 2018 ถูกคนเกาะสมุย ชาวโซเชียลออกมา ตำหนิป้ายที่ไม่เหมาะสมของโรงแรมดังแห่งหนึ่ง เรียกร้องให้รับผิดชอบ ด้านโรงแรมดังทำหนังสือชี้แจงแต่ทำหนังสือผิดถึง 2 ครั้ง

วันนี้ ( 28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ที่ใช้เฟชบุ๊ค ชื่อ ปฐม พรหมรัษ์ ได้โพส์ตข้อความว่า “คุณคิดอย่างกับคำพูดของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ผมคิดว่ามันพูด หม..าๆนะ แต่ถ้าพูดว่าเกาะสมุยมีกีฬาควายชนแห่งเดียวในประเทศไทยน่าจะไพเราะกว่ามั๊ย” พร้อมกับภาพ และ ข้อความ ที่โรงแรมดังกล่าวนำมาถือ มีภาพควายชนกันสองตัว และข้อความว่า อาชีพของคนเกาะสมุย อาชีพความชน”
และ ยังมีผู้ใช้เฟชบุ๊คชื่อ ศักดิ์วิชญ์ แก้วมีศรี นำไปโพส์ตในเพจดังรวมพลฅนสมุย “มีข้อความว่า # มากอบโกยผลประโยชน์ จากบ้านเราและยังมาเหยียบย่ำเราอีก ลองตรึกตรองกันครับพี่น้อง” พร้อมกับมีภาพและข้อความป้ายของโรงแรมดังกล่าวขึ้นโพส์ต ภายหลังทั้งสองเฟชบุ๊คที่มีการนำมาโพส์ต ทำให้ชาวเกาะสมุย ออกมาแสดงความคิดเห็นถล่มโรงแรมดังกล่าว เป็นจำนวนมาก

ล่าสุดทางโรงแรมดังกล่าว ได้ทำหนังสือขอโทษไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึง 2 ครั้ง เนื่องจากครั้งแรกพิมพ์ชื่อนายอำเภอผิดคน ครั้งแรก มีข้อความว่า “เรียน เรียนนายกล้าณรงค์ ยุติธรรม นายอำเภอเกาะสมุย นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย การที่ใช้คำที่ไม่เหมาะสมในการสื่อสาร เนื่องจากการเข้าร่วมขบวนพาเหรดในงาน Samui Festival
เนื่องด้วยวันที่ 26 กันยายน 2561 ที่ผ่านมาทางโรงแรม อนันตราบ่อผุด ได้ใช้คำที่ไม่เหมาะสมในการสื่อสารเกี่ยวกับประเพณีควายชน ทำให้ชาวสมุยเสื่อมเสียชื่อเสียงและกระทบต่อจิตในความรู้สึกของชาวเกาะสมุย

ทางโรงแรมฯรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น จึงขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน รวมทั้งขอขอบคุณสำหรับข้อเสนอเเนะ และจะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้อีก” “แต่จากการตรวจสอบ พบว่านายกล้าณรงค์ ยุติธรรม เป็นอดีตนายอำเภอเกาะสมุย ที่ทางโรงแรมทำหนังสือขอโทษ ได้ย้ายไปปฎิบัติหน้าที่ เป็นนายอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปนานแล้ว”
ล่าสุดทางโรงแรมได้ทำหนังสือชี้แจงอีกหนึ่งฉบับ มีใจความว่า “เรียน ว่า ที่กิตติภพ รอดถอน นายอำเภอเกาะสมุย ซึ่งจริงๆแล้ว ชื่อนายอำเภอชื่อว่าที่ ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน แต่ทางโรงแรมพิมพ์นามสกุลผิดซ้ำขึ้นมาอีก จึงทำให้ชาวโซเชียล ไม่พอใจ ว่าเป็นการทำผิดซ้ำซาก ไม่มีความจริงใจในการที่จะออกมารับผิดชอบจากใจจริง ทำให้ชาวโซเชียล ต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ว่าเป็นการดูถูกไม่ให้เกียรติคนเกาะสมุย และให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบจากใจจริง และต้องออกมาขอโทษชาวเกาะสมุย ด้วยการขึ้นป้ายขอโทษที่หน้าโรงแรม หากยังไม่มีการแสดงความริบผิดชอบชาวเกาะสมุยอาจ รวมตัวเรียกร้องที่หน้าโรงแรมในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา โดยเกาะสมุยได้จัดกิจกรรม สมุยเฟสติวัล 2018 ประจำปี 2561 ซึ่งเป็นงาน ที่จัดติดต่อกันมา และมีการการเดินขบวนพาเหรด และ ขบวนคานิวัล จากชุมชนต่างๆบนเกาะสมุย และ ยังมีโรงแรมได้ส่งขบวนมาร่วมเดินขบวนในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย และมาทราบว่า โรงแรมดังกล่าว ได้ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยเป็นขบวนสุดท้าย โดยมีพนักงานถือป้าย “ อาชีพของคนเกาะสมุย อาชีพความชน” แต่มาเกิดข้อผิดพลาดดังกล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อไปที่ เจ้าของโพส์ต ชื่อศักดิ์วิชญ์ แก้วมีศรี ซึ่งอดีตเป็นนักการเมือง สท.เทศบาลเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติคนเกาะสมุย เป็นการดูถูกคนเกาะสมุย อย่าลืมว่าโรงแรมดังกล่าว มาอาศัยทำธุรกิจบนเกาะสมุย ขณะที่จากการตรวจสอบหนังสือขอชี้แจงขอโทษ เป็นการชี้แจงที่ใช้คำผิดแบบซ้ำซาก เหมือนเป็นการชี้แจงที่ไม่มีความจริงใจ

ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลชื่อและนามสกุลของนายอำเภอ ที่ย้ายไปแล้ว และยังพิมพ์นามสกุลท่านผิดอีก ถือว่าเป็นทำผิดซ้ำซาก อยากให้ทางโรงแรม ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการขึ้นป้ายขอโทษชาวเกาะสมุยที่หน้าโรงแรม หากยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบที่จริงใจ ชาวเกาะสมุยอาจรวบตัวที่หน้าโรงแรมของคุณในเร็วๆนี้
วันนี้ ( 28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ที่ใช้เฟชบุ๊ค ชื่อ ปฐม พรหมรัษ์ ได้โพส์ตข้อความว่า “คุณคิดอย่างกับคำพูดของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ผมคิดว่ามันพูด หม..าๆนะ แต่ถ้าพูดว่าเกาะสมุยมีกีฬาควายชนแห่งเดียวในประเทศไทยน่าจะไพเราะกว่ามั๊ย” พร้อมกับภาพ และ ข้อความ ที่โรงแรมดังกล่าวนำมาถือ มีภาพควายชนกันสองตัว และข้อความว่า อาชีพของคนเกาะสมุย อาชีพความชน”
และ ยังมีผู้ใช้เฟชบุ๊คชื่อ ศักดิ์วิชญ์ แก้วมีศรี นำไปโพส์ตในเพจดังรวมพลฅนสมุย “มีข้อความว่า # มากอบโกยผลประโยชน์ จากบ้านเราและยังมาเหยียบย่ำเราอีก ลองตรึกตรองกันครับพี่น้อง” พร้อมกับมีภาพและข้อความป้ายของโรงแรมดังกล่าวขึ้นโพส์ต ภายหลังทั้งสองเฟชบุ๊คที่มีการนำมาโพส์ต ทำให้ชาวเกาะสมุย ออกมาแสดงความคิดเห็นถล่มโรงแรมดังกล่าว เป็นจำนวนมาก
ล่าสุดทางโรงแรมดังกล่าว ได้ทำหนังสือขอโทษไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึง 2 ครั้ง เนื่องจากครั้งแรกพิมพ์ชื่อนายอำเภอผิดคน ครั้งแรก มีข้อความว่า “เรียน เรียนนายกล้าณรงค์ ยุติธรรม นายอำเภอเกาะสมุย นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย การที่ใช้คำที่ไม่เหมาะสมในการสื่อสาร เนื่องจากการเข้าร่วมขบวนพาเหรดในงาน Samui Festival
เนื่องด้วยวันที่ 26 กันยายน 2561 ที่ผ่านมาทางโรงแรม อนันตราบ่อผุด ได้ใช้คำที่ไม่เหมาะสมในการสื่อสารเกี่ยวกับประเพณีควายชน ทำให้ชาวสมุยเสื่อมเสียชื่อเสียงและกระทบต่อจิตในความรู้สึกของชาวเกาะสมุย
ทางโรงแรมฯรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น จึงขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน รวมทั้งขอขอบคุณสำหรับข้อเสนอเเนะ และจะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้อีก” “แต่จากการตรวจสอบ พบว่านายกล้าณรงค์ ยุติธรรม เป็นอดีตนายอำเภอเกาะสมุย ที่ทางโรงแรมทำหนังสือขอโทษ ได้ย้ายไปปฎิบัติหน้าที่ เป็นนายอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปนานแล้ว”
ล่าสุดทางโรงแรมได้ทำหนังสือชี้แจงอีกหนึ่งฉบับ มีใจความว่า “เรียน ว่า ที่กิตติภพ รอดถอน นายอำเภอเกาะสมุย ซึ่งจริงๆแล้ว ชื่อนายอำเภอชื่อว่าที่ ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน แต่ทางโรงแรมพิมพ์นามสกุลผิดซ้ำขึ้นมาอีก จึงทำให้ชาวโซเชียล ไม่พอใจ ว่าเป็นการทำผิดซ้ำซาก ไม่มีความจริงใจในการที่จะออกมารับผิดชอบจากใจจริง ทำให้ชาวโซเชียล ต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ว่าเป็นการดูถูกไม่ให้เกียรติคนเกาะสมุย และให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบจากใจจริง และต้องออกมาขอโทษชาวเกาะสมุย ด้วยการขึ้นป้ายขอโทษที่หน้าโรงแรม หากยังไม่มีการแสดงความริบผิดชอบชาวเกาะสมุยอาจ รวมตัวเรียกร้องที่หน้าโรงแรมในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา โดยเกาะสมุยได้จัดกิจกรรม สมุยเฟสติวัล 2018 ประจำปี 2561 ซึ่งเป็นงาน ที่จัดติดต่อกันมา และมีการการเดินขบวนพาเหรด และ ขบวนคานิวัล จากชุมชนต่างๆบนเกาะสมุย และ ยังมีโรงแรมได้ส่งขบวนมาร่วมเดินขบวนในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย และมาทราบว่า โรงแรมดังกล่าว ได้ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยเป็นขบวนสุดท้าย โดยมีพนักงานถือป้าย “ อาชีพของคนเกาะสมุย อาชีพความชน” แต่มาเกิดข้อผิดพลาดดังกล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อไปที่ เจ้าของโพส์ต ชื่อศักดิ์วิชญ์ แก้วมีศรี ซึ่งอดีตเป็นนักการเมือง สท.เทศบาลเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติคนเกาะสมุย เป็นการดูถูกคนเกาะสมุย อย่าลืมว่าโรงแรมดังกล่าว มาอาศัยทำธุรกิจบนเกาะสมุย ขณะที่จากการตรวจสอบหนังสือขอชี้แจงขอโทษ เป็นการชี้แจงที่ใช้คำผิดแบบซ้ำซาก เหมือนเป็นการชี้แจงที่ไม่มีความจริงใจ
ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลชื่อและนามสกุลของนายอำเภอ ที่ย้ายไปแล้ว และยังพิมพ์นามสกุลท่านผิดอีก ถือว่าเป็นทำผิดซ้ำซาก อยากให้ทางโรงแรม ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการขึ้นป้ายขอโทษชาวเกาะสมุยที่หน้าโรงแรม หากยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบที่จริงใจ ชาวเกาะสมุยอาจรวบตัวที่หน้าโรงแรมของคุณในเร็วๆนี้