กระบี่ - ครูและนักเรียน บ้านในช่อง จ.กระบี่ หวั่นโรงไฟฟ้าขยะเกิดทำเดือดร้อนเพิ่ม หลังต้องทนทุกข์จากปัญหากลิ่น น้ำเสีย จากภูเขาขยะ ฝูงสุนัขมานานหลายปี
วันนี้ ( 27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก ครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนมิตรภาพที่123 บ้านในช่อง หมู่ 1 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ว่าได้รับความเดือดร้อนมานานหลายปี จากกลิ่นเหม็น ที่มาจากจากบ่อขยะ ภายในศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ทับปริก และ หมู่ 1 ต.ไสไทย บนเนื้อที่กว่า200 ไร่ อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 500 เมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ โรงเรียนดังกล่าวพบว่ามีนักเรียนในโรงเรียน เพียง 60 คน สอนตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็ก จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
โดยทราบจากครูในโรงเรียน ว่า สาเหตุที่มีเด็กนักเรียนน้อย ส่วนหนึ่ง มาจากมีผู้ปกครองย้ายบุตรหลานออกไปเรียนเรียนที่อื่น เกรงว่าจะได้รับผลกระทบเรื่องมลพิษทางอากาศ ซึ่งยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นอกจากนี้ ยังมีสุนัขจรจัดจำนวนหลายร้อยตัว ที่หากินอยู่บริเวณบ่อขยะ มักจะออกมาหากินบริเวณโรงเรียน เข้ากัดรองเท้า คาบรองเท้าของนักเรียนที่วางอยู่ใต้อาคารเรียน บ่อยครั้ง จนทางโรงเรียน ต้องสร้างรั้วตาข่ายเหล็กกั้นโดยรอบ เพื่อป้องกันสุนัขเข้ามาเพ่นพ่านในโรงเรียน
นางจัญญา อนงค์ ครูในโรงเรียนมิตรภาพฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเด็กนักเรียน และครูในโรงเรียน ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะ มาตั้งแต่ปี 58 - 59 โดยเฉพาะกลิ่นเหม็นจะโชยมาทุกๆวัน ทำให้นักเรียนและครูเสียสมาธิในการเรียนการสอน รวมทั้งปัญหาแมลงวันจากบ่อขยะที่มักจะเข้ามารบกวนเวลานักเรียนเวลาทานอาหารกลางวัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาสุนัขจรจัดที่ มักจะมาไล่กัดผู้ปกครองและนักเรียนบ่อยครั้ง
ตนเองเคยพาผู้ปกครอง ที่ถูกสุนัขกัดไปโรงพยาบาลมาแล้ว สิ่งที่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาตอนนี้คือ ลดปริมาณขยะให้น้อยลง หรือหากเป็นไปได้ อยากให้ย้ายสถานที่ทิ้งขยะออกไปจากพื้นที่ เพราะตนเองก็เป็นคนในพื้นที่ ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเสียที่มาจากบ่อขยะด้วย
ขณะที่เด็กๆ ในโรงเรียน ก็บอกว่าปัญหาที่พบจากบ่อขยะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกลิ่นเหม็นที่มีมาตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงหลังฝนตก จะมีกลิ่นเหม็นมากกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีสุนัขจรจัด ที่มาจากบ่อขยะ เข้ามากัดรองเท้านักเรียนได้รับความเสียหาย หลายราย รวมทั้งแมลงวันที่มารบกวนเวลาทานอาหารกลางวัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กนักเรียน อยากให้ผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไข
ขณะที่ พ.จ.อ.ปัญญา หิรัญ อายุ 60 ปี ประธานกลุ่มคนรักในช่อง ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ อาคารโรงคัดแยกขยะ ภายในศูนย์กำจัดขยะ เทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งอยู่ห่างจากโรเรียนประมาณ 500 เมตร ต้นเหตุของกลิ่นเหม็น พบว่า อาคาร2 หลัง ถูกทิ้งร้างไม่สามารถใช้การได้มานาน ซึ่งมีรถบรรทุก เครื่องคัดแยกขยะและเครื่องจักร อยู่ในสภาพชำรุด ไม่ได้รับการดูแล โดยมีขยะจำพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือขยะพิษกองกระจัดกระจาย นอกจากนี้บริเวณใกล้กันมีบ่อปฏิกูล ที่เปิดปากบ่อทิ้งไว้ไม่มีการนำวัสดุ หรืออะไรมาปิดทับ ทำให้กลิ่นสิ่งปฏิกูลกระจายไปทั่วบริเวณ
พ.จ.อ.ปัญญา กล่าวว่า ปัญหาที่มาจากขยะจากศูนย์กำจัดเทศบาล ส่วนหนึ่งมาจาก การนำขยะมาทิ้งโดยไม่ผ่านการคัดแยก เนื่องจากโรงเรือนคัดแยกไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีการปรับปรงแก้ไข ซึ่งขยะที่นำมาทิ้งนั้นมาจากหลายพื้นที่และมีหลากหลายประเภท มีทั้ง ขยะแห้ง ขยะเปียก รวม ทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือขยะมีพิษ ดังนั้นขยะที่นำมาทิ้งทั้งหมด วันละกงว่า 175 ตัน ไม่ได้ผ่านการคัดแยก มากองรวมกันที่บ่อขยะ
จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบด้วย เพราะสร้างมาจากงบประมาณของรัฐ ขณะเดียวกันบ่อขยะที่สร้างไว้ 2 บ่อ นั้นขยะกองเป็นภูเขา และล้นออกมานอกบ่อและมีน้ำเสีย ส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากบ่อขยะทั้งสองรองรับขยะ ได้6 แสนตันแต่ขณะมีอยู่กว่า 7 แสนตัน
พ.จ.อ.ปัญญา เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมา ตนและชาวบ้าน ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้จังหวัดแก้ปัญหามาโดยตลอด ซึ่งทางเทศบาลเมืองกระบี่ ก็รับทราบแล้วในหลายประเด็น ทั้งเรื่องปัญหากลิ่นเหม็น แมลงวันรบกวน เรื่องน้ำเสีย เรื่องสุนัขจรจัด ที่ทางเทศบาลฯ นำมาจากที่อื่นแล้วมาปล่อยทิ้งไว้ ที่ผ่านมาไม่มีการทำหมัน หรือป้องกันในเรื่องของโรค ทำให้สุนัขเหล่านี้ใช้พื้นที่บนภูเขาอาศัย ปัจจุบันมีปริมาณหลายร้อยตัว พออาหารไม่เพียงพอ ก็แอบเข้าไปกัดกินเป็ด ไก่ ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ซึ่งผลกระทบตอนนี้มีชาวบ้านเดือดร้อนประมาณ 3 หมู่บ้านใน 2 ตำบล 600-700 ครัวเรือน
สำหรับศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองกระบี่ สร้างขึ้นเมื่อปี 2540 โดยช่วงแรก ใช้ร่วมกัน 3 พื้นที่ คือ เทศบาลเมืองกระบี่ อบต.ทับปริก และ อบต.ไสไทย ต่อมาทาง อบต.อ่าวนาง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งเกาะพีพี และอีกหลาย อบต.ใน 3 อำเภอ มาใช้เป็นพื้นที่ทิ้งขยะ จนทำให้บ่อขยะบ่อแรกซึ่งมีความจุประมาณ 300,000 ตัน รองรับไม่ไหว จึงต้องขุดบ่อขยะแบบฝังกลบเพิ่มเติมอีก 1 บ่อ ขนาด 3 แสนตัน ในปี พ.ศ.2548 แต่ไม่นานขยะก็เต็มและล้น
จนปัจจุบันมีปริมาณขยะทั้งที่ฝังกลบแล้ว และ เป็นขยะตกค้างมากกว่า 700,000 ตัน โดยมีขยะจากหลายพื้นที่ถูกนำมาทิ้งวันละประมาณ 170 ตันต่อวัน ทำให้กลายเป็นภูเขาขยะสูงมากกว่าตึก 3 ชั้น เป็นแหล่งหากินของสุนัขจรจัด และแหล่งเพาะเชื้อโรค โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่ไหลออกมาจากบ่อขยะ ที่ผ่านมาไม่ได้ผ่านการบำบัด จึงไหลซึมเข้าสู่แหล่งน้ำธรรมชาติของชาวบ้านในหลายพื้นที่ โดยปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใด สามารถแก้ปัญหาได้
ขณะนี้ ทาง เทศบาลเมืองกระบี่ มีโครงการจะสร้างโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งได้มีการประมูลโครงการไปแล้ว ทำให้ประชาชนในพื้นที่ มีความเป็นกังวลเป็นอย่างมาก หากว่าโรงไฟฟ้าขยะเกิด ชาวบ้านในช่องคงจะเป็นทุกข์มากกว่านี้
