ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ออกแล้ว ผลตรวจ DNA จระเข้ยะนุ้ย ถูกจับได้ที่ภูเก็ต พบเป็นจระเข้น้ำเค็ม รอกรมประมงหาข้อยุติในการดูแลให้เหมาะสมต่อไป ยืนยันไม่มีที่มาจากธรรมชาติ แต่เกิดจากการแอบเลี้ยง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าวโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พบสื่อมวลชน ครั้งที่ 11/2561 โดยมี นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบหาสายพันธุ์จระเข้ยะนุ้ย ซึ่งเป็นจระเข้ที่ชาวบ้านพบว่ายน้ำอยู่ในทะเลบริเวณหาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะว่ายไปยังขายหาดต่างๆ ตลอดแนว สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่สามารถจับตัวได้ที่บริเวณหาดลายัน ต.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่จับจระเข้ตัวดังกล่าวได้ก็นำมาตรวจสอบและดูแล รวมทั้งเก็บ DNA ไปตรวจสอบหาสายพันธุ์ที่แท้จริง
ปรากฏว่า จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นจระเข้ยะนุ้ย เป็นจระเข้น้ำเค็มแท้ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดทำได้เพียงเพียงเรื่องของการดูแล ส่วนจะจัดการกับจระเข้ตัวดังกล่าวอย่างไร ทางกรมประมงจะเป็นผู้ดำเนินการว่าจะนำจะเข้ไปไว้ที่ใด ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจของจังหวัด

ด้าน นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่สถานีวิจัยและพัฒนาประมงทะเลจังหวัดระนอง ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการตรวจสอบ ลักษณะภายนอกของจระเข้ยะนุ้ย ที่จับได้ พบว่า ตัวจระเข้ตัวดังกล่าวในภาพรวมเป็นจระเข้เพศเมีย ลักษณะจะงอยปากแคบแหลม มีสันบนดั้งจมูกชัดเจนเกล็ดท้ายทอยมีขนาดเล็ก เกล็ดข้างลำตัวมีขนาดเล็ก เท้าหลังมีแผ่นหนังขนาดใหญ่ระหว่างนิ้วเท้า 2 นิ้วสุดท้าย แต่พบลักษณะเกล็ดข้างตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าเกล็ดทั่วไปเล็กน้อย 2 แถว ซึ่งอาจเป็นลักษณะความผันแปรของเกล็ด หรือเกิดจากการผสมข้ามชนิดกับจระเข้น้ำจืด (hybrid C.porosus x C.siamensis)
จำเป็นต้องมีการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อยืนยันต่อไป จระเข้ดังกล่าวมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงมีการตอบสนองเมื่อถูกกระตุ้นทันที พบมีบาดแผลเล็กน้อยซึ่งเกิดระหว่างการจับ และขนย้าย และแผลสดใหม่ที่เกิดจากการดิ้นในบ่อปูน ก่อนการตรวจสอบลักษณะเพื่อจำแนกชนิดซึ่งได้ให้ยารักษาแผลหลังการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว
ข้อสังเกตอื่นๆ จากจระเข้ตัวนี้ คือ มีตะไคร่น้ำขึ้นทั้งบริเวณหัว ลำตัว และหางทั้งด้านบนและด้านข้าง ซึ่งสันนิษฐานว่าจระเข้ตัวดังกล่าวเคยอยู่ในแหล่งน้ำนิ่งเป็นเวลานานมาก่อนที่จะออกสู่ทะเล ซึ่งลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นยากมากในจระเข้ธรรมชาติ แต่พบได้เสมอในจระเข้ที่อยู่ในที่เลี้ยง

นอกจากนั้น จระเข้ตัวดังกล่าวกินโครงไก่เป็นอาหารแต่ไม่ยอมกินปลา ซึ่งอาจเป็นความคุ้นชินต่ออาหารที่เคยได้กินประจำมาก่อน สัตว์กลุ่มเพรียงหินเกาะที่บริเวณหางและเกล็ดคอ แสดงถึงน้ำที่เคยอาศัยอยู่มาก่อนเป็นน้ำเค็ม และจากการสแกนจากเจ้าหน้าที่ไม่พบไมโครชิป และไม่มีการขลิบเกล็ดที่หาง แสดงว่าจระเข้ตัวนี้ไม่เคยอยู่ในระบบจระเข้ที่ถูกครอบครองอย่างถูกกฎหมายมาก่อน
ทั้งนี้ ในกรณีหากเป็นจระเข้น้ำเค็มแท้ ชาวภูเก็ตส่วนหนึ่งอยากให้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แต่ไม่ใช่บริเวณจังหวัดภูเก็ต ส่วนหนึ่งต้องการให้ขังเพื่อความปลอดภัยต่อคนที่จะไม่โดนจระเข้ทำร้าย และจระเข้จะไม่ถูกคนไล่ล่า
นายโกวิทย์ ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการตรวจ DNA จระเข้ยะนุ้ย เป็นจระเข้น้ำเค็ม (Crocodylus porosus) โดยยืนยันจากรายงานผลตรวจสุขภาพจระเข้จังหวัดภูเก็ต วันที่ 15 สิงหาคม 2561 คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ดำเนินการตรวจสุขภาพและเก็บตัวอย่างส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ จากการประเมินสุขภาพเบื้องต้น พบว่า จระเข้มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าและสิ่งแวดล้อมดี โดยหลังจากนี้ กรมประมงจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหาข้อยุติในการดูแลจระเข้ยะนุ้ยให้เกิดความเหมาะสมต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าวโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พบสื่อมวลชน ครั้งที่ 11/2561 โดยมี นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบหาสายพันธุ์จระเข้ยะนุ้ย ซึ่งเป็นจระเข้ที่ชาวบ้านพบว่ายน้ำอยู่ในทะเลบริเวณหาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะว่ายไปยังขายหาดต่างๆ ตลอดแนว สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่สามารถจับตัวได้ที่บริเวณหาดลายัน ต.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่จับจระเข้ตัวดังกล่าวได้ก็นำมาตรวจสอบและดูแล รวมทั้งเก็บ DNA ไปตรวจสอบหาสายพันธุ์ที่แท้จริง
ปรากฏว่า จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นจระเข้ยะนุ้ย เป็นจระเข้น้ำเค็มแท้ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดทำได้เพียงเพียงเรื่องของการดูแล ส่วนจะจัดการกับจระเข้ตัวดังกล่าวอย่างไร ทางกรมประมงจะเป็นผู้ดำเนินการว่าจะนำจะเข้ไปไว้ที่ใด ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจของจังหวัด
ด้าน นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่สถานีวิจัยและพัฒนาประมงทะเลจังหวัดระนอง ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการตรวจสอบ ลักษณะภายนอกของจระเข้ยะนุ้ย ที่จับได้ พบว่า ตัวจระเข้ตัวดังกล่าวในภาพรวมเป็นจระเข้เพศเมีย ลักษณะจะงอยปากแคบแหลม มีสันบนดั้งจมูกชัดเจนเกล็ดท้ายทอยมีขนาดเล็ก เกล็ดข้างลำตัวมีขนาดเล็ก เท้าหลังมีแผ่นหนังขนาดใหญ่ระหว่างนิ้วเท้า 2 นิ้วสุดท้าย แต่พบลักษณะเกล็ดข้างตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าเกล็ดทั่วไปเล็กน้อย 2 แถว ซึ่งอาจเป็นลักษณะความผันแปรของเกล็ด หรือเกิดจากการผสมข้ามชนิดกับจระเข้น้ำจืด (hybrid C.porosus x C.siamensis)
จำเป็นต้องมีการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อยืนยันต่อไป จระเข้ดังกล่าวมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงมีการตอบสนองเมื่อถูกกระตุ้นทันที พบมีบาดแผลเล็กน้อยซึ่งเกิดระหว่างการจับ และขนย้าย และแผลสดใหม่ที่เกิดจากการดิ้นในบ่อปูน ก่อนการตรวจสอบลักษณะเพื่อจำแนกชนิดซึ่งได้ให้ยารักษาแผลหลังการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว
ข้อสังเกตอื่นๆ จากจระเข้ตัวนี้ คือ มีตะไคร่น้ำขึ้นทั้งบริเวณหัว ลำตัว และหางทั้งด้านบนและด้านข้าง ซึ่งสันนิษฐานว่าจระเข้ตัวดังกล่าวเคยอยู่ในแหล่งน้ำนิ่งเป็นเวลานานมาก่อนที่จะออกสู่ทะเล ซึ่งลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นยากมากในจระเข้ธรรมชาติ แต่พบได้เสมอในจระเข้ที่อยู่ในที่เลี้ยง
นอกจากนั้น จระเข้ตัวดังกล่าวกินโครงไก่เป็นอาหารแต่ไม่ยอมกินปลา ซึ่งอาจเป็นความคุ้นชินต่ออาหารที่เคยได้กินประจำมาก่อน สัตว์กลุ่มเพรียงหินเกาะที่บริเวณหางและเกล็ดคอ แสดงถึงน้ำที่เคยอาศัยอยู่มาก่อนเป็นน้ำเค็ม และจากการสแกนจากเจ้าหน้าที่ไม่พบไมโครชิป และไม่มีการขลิบเกล็ดที่หาง แสดงว่าจระเข้ตัวนี้ไม่เคยอยู่ในระบบจระเข้ที่ถูกครอบครองอย่างถูกกฎหมายมาก่อน
ทั้งนี้ ในกรณีหากเป็นจระเข้น้ำเค็มแท้ ชาวภูเก็ตส่วนหนึ่งอยากให้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แต่ไม่ใช่บริเวณจังหวัดภูเก็ต ส่วนหนึ่งต้องการให้ขังเพื่อความปลอดภัยต่อคนที่จะไม่โดนจระเข้ทำร้าย และจระเข้จะไม่ถูกคนไล่ล่า
นายโกวิทย์ ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการตรวจ DNA จระเข้ยะนุ้ย เป็นจระเข้น้ำเค็ม (Crocodylus porosus) โดยยืนยันจากรายงานผลตรวจสุขภาพจระเข้จังหวัดภูเก็ต วันที่ 15 สิงหาคม 2561 คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ดำเนินการตรวจสุขภาพและเก็บตัวอย่างส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ จากการประเมินสุขภาพเบื้องต้น พบว่า จระเข้มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าและสิ่งแวดล้อมดี โดยหลังจากนี้ กรมประมงจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหาข้อยุติในการดูแลจระเข้ยะนุ้ยให้เกิดความเหมาะสมต่อไป