ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรปลูกเมล่อนสีทองที่ อ.ควนเนียง ขยายพื้นที่ปลูกเมล่อนสีทองเพิ่มอีก 4 โรงเรือนในพื้นที่ ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา ใกล้วัดพระนอนแหลมพ้อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม พร้อมสร้างจุดจำหน่ายผลผลิตเมล่อนได้ซื้อและเป็นของฝากจากเกาะยออีกด้วย
หลังจากที่นายทวีศักดิ์ นางรัชนีวรรณ ใสกล้วย สองสามีภรรยาคนสู้ชีวิต จากคนขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปพลิกชีวิตลงมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ปลูกเมล่อนสีทอง จากการศึกษาค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ต จนสามารถสร้างอาชีพและสร้างรายได้อย่างดี เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง จนสามารถสร้างฟาร์ม ชื่อเป็นเอกฟาร์ม หมู่ที่ 7 ต.ควนเนียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา
ไม่เกิน 2 เดือน จุดจำหน่ายผลผลิตเมล่อนก็จะสำเร็จ สำหรับเมล่อนในโรงเรือนเริ่มลงมือปลูกไปแล้ว 1 โรง พรุ่งนี้ก็จะเริ่มทยอยปลูกให้ครบทั้ง 4 โรง และจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อีกไม่เกิน 2 เดือน เนื่องจากใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 70 วัน พร้อมจุดจำหน่ายผลผลิตเมล่อนก็จะเสร็จเช่นเดียวกัน และจะนำเมล่อนที่เป็นเอกฟาร์มที่ อ.ควนเนียง ที่กำลังออกผลผลิต 20 วัน ออกหนึ่งโรงมาจำหน่ายที่นี่ก่อน เพราะว่าเป็นจุดผ่านของรถ และจุดผ่านของนักท่องเที่ยวที่เหมาะสม
นายทวีศักดิ์ ใสกล้วย เจ้าของเป็นเอกฟาร์มเมล่อน กล่าวว่า ตรงนี้จะทำเป็นจุดจำหน่ายผลผลิตเมล่อนจากโรงเรือนนำขึ้นมาขายตรงนี้ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ OTOP ของเกาะยอด้วย โดยใช้พื้นที่ 288 ตร.ม. รวมทั้งจะทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ จะมีฟาร์มผักเล็กๆ สัก 2-3 อย่าง มาจำหน่าย ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟาร์มและได้เรียนรู้ สำหรับจุดจำหน่ายผลผลิตเมล่อนอยู่ใกล้วัดพระนอนวัดแหลมพ้อ เมื่อลงจากสะพานติณสูลานนท์ จะเป็นทางผ่าน และจุดที่ทำโรงเรือนทำฟาร์มเมล่อนจะเป็นเส้นทางผ่านเข้าไปในวัดพระนอนวัดแหลมพ้อ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยว และสักการะพระนอนทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่วัดพระนอนเป็นจำนวนมาก ถือว่าทำเลตรงนี้เป็นจุดที่สวยมาก
ในขณะเดียวกัน นายทวีศักดิ์ ใสกล้วย ได้มาดูแลการก่อสร้างจุดจำหน่ายผลผลิตเมล่อน และนำเมล่อนที่เพาะชำลงกระถางในโรงเรือนที่ ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา นางรัชนีวรรณ ใสกล้วย ก็ได้นำผลผลิตเมล่อนสีทองจากฟาร์มที่ อ.ควนเนียง มาวางจำหน่ายนักท่องเที่ยวในบูทจำหน่ายสินค้าภายในบริเวณวัดพระนอนวัดแหลมพ้อ ที่เกาะยออีกด้วย