สตูล - 2 สามีภรรยาชาว จ.สตูล คนสู้ชีวิต ผันตัวจากชาวสวนยางพาราหันเพาะเลี้ยง “สาหร่ายขนนก” นำขายสร้างรายได้งาม แถมนำต่อยอดผลิตเป็นน้ำสาหร่าย ผลตอบรับดีจากกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ
“สาหร่ายขนนก” พืชน้ำเค็มสีเขียวมรกตเรียงตัวสวยงาม ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร หารับประทานได้ในช่วงน้ำใหญ่ ชาวบ้านบอกว่าปกติอยู่ในคลองน้ำเค็ม และเพื่อให้ได้กินสาหร่ายตลอดทั้งปี เกษตรกรในพื้นที่บ้านท่าหิน ต.ควนขัน อ.เมืองสตูล จึงทดลองเพาะพันธุ์สาหร่ายขนนกเพื่อรองรับตลาด
เช่นที่ “ฟาร์มสาหร่ายอายู” บ้านท่าหิน หมู่ 6 ต.ควนขัน อ.เมืองสตูล นายมะหมาด มะลา กับนางสาตาเรี๊ยะนางา มะลา สองสามีภรรยาได้ช่วยกันเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนก ภายในบ่อซีเมนต์ที่มีมากถึง 14 บ่อ ในบริเวณบ้าน
นายมะหมาด มะลา อายุ 50 ปี เจ้าของฟาร์ม กล่าวว่า เดิมครอบครัวมีอาชีพกรีดยางพารา แต่ราคายางตกต่ำระยะยาว ประกอบกับส่วนตัวมีอาชีพเสริมหาสาหร่ายในคลองไปขายในตลาดอยู่แล้ว แต่สาหร่ายไม่ได้มีให้เก็บตลอด จะมีเฉพาะช่วงน้ำใหญ่ (น้ำขึ้นมาก) จึงคิดเพาะพันธุ์สาหร่ายเพื่อให้มีขายตลอดปี ทั้งนี้ เจ้าของฟาร์มบอกว่า ได้เคยไปศึกษาดูงานการเพาะเลี้ยงจาก จ.กระบี่ มาแล้ว จึงทดลองเพาะดู และได้ผลตอบรับที่ดี สาหร่ายขยายตัวเต็มบ่อ เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
ส่วนการเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกนี้ นายมะหมาด มะลา บอกว่า นำสาหร่ายสมบูรณ์คุณภาพดีมา 3 กรัม มาเพาะในตะกร้า ทิ้งไว้ในน้ำเค็มสะอาด อุณหภูมิปกติ น้ำต้องไม่ร้อน เพราะจะทำให้สาหร่ายหดตัว เมื่อน้ำลดก็ต้องหมั่นเติมน้ำลงบ่อ ทางฟาร์มจะให้ออกซิเจนในบ่อด้วยเพื่อปรับความเหมาะสมของอากาศ อาศัยประสบการณ์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้วันนี้สามารถเพาะสาหร่ายขนนกจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี
เมื่อเพาะพันธุ์สาหร่ายได้จำนวนมาก เจ้าของฟาร์มจึงมีแนวคิดต่อยอดไปสู่ “น้ำสาหร่ายเพื่อสุขภาพ” โดย นางสาตาเรี๊ยะนางา มะลา ภรรยา ได้สาธิตการทำน้ำสาหร่ายสูตร “สาหร่ายน้ำผึ้ง” โดยต้มน้ำ 3 ลิตร ให้เดือด 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อนใส่น้ำตาลกรวด น้ำตาลทราย และน้ำผึ้งรวง จากนั้นใส่น้ำสาหร่ายขนนกที่ได้จากการปั่น จำนวน 2 ขีดลงไป ตั้งทิ้งไว้เพียง 5 นาที หากนานกว่านั้นคุณค่าทางสารอาหารจะลดลง ก่อนยกจากเตาน็อกน้ำแข็ง ปล่อยทิ้งให้เย็น พร้อมบรรจุใส่ขวด ซึ่งเก็บไว้ได้นาน 1 สัปดาห์
สำหรับน้ำสาหร่ายนี้มี 2 สูตร คือ “สูตรน้ำผึ้ง” ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิม และ “สูตรใบเตย” สูตรนี้จะเพิ่มความหอมของใบเตยเล็กน้อย จำหน่ายในราคาขวดละ 15 บาท ขายส่งขวดละ 10 บาท ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ารักสุขภาพ เพราะมีคุณค่าทางอาหารอย่างมาก
นางสาตาเรี๊ยะนางา มะลา ภรรยาบอกด้วยว่า นอกจากน้ำสาหร่ายแล้ว ทางฟาร์มได้ขายสาหร่ายขนนกสด ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท แบ่งขายเป็นแพกๆ ละ 30 บาท และ 50 บาท พร้อมน้ำจิ้ม จะขายในตลาดเกษตรที่ศาลากลางจังหวัด ธนาคาร ธ.ก.ส. และที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ก็มีลูกค้ามาสั่งซื้อที่ฟาร์มด้วย บ้างก็มีลูกค้าจากต่างจังหวัด และจากประเทศมาเลเซียก็มีมาสั่งซื้อ
ในส่วนของสาหร่ายขนนกนี้ สามารถกินสดคู่กับน้ำจิ้มถั่วกะทิ หรือทำเป็นไข่เจียว สาหร่ายเมนูแนะนำที่สามารถนำมาปรุงได้อีกหลากหลายเมนู เหมาะสำหรับคนรักษ์สุขภาพ ยำสาหร่าย และน้ำสาหร่ายของทางฟาร์ม ที่มีรสชาติหวานเล็กๆ จากน้ำผึ้ง แต่ไม่คาว แม้สาหร่ายจะเป็นพืชน้ำเค็ม มีคุณค่าทางอาหาร คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง มีวิตามินที่ร่างกายต้องการ ไอโอดีนป้องกัน และรักษาโรคคอพอก แมกนีเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก และทองแดง ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง สังกะสีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และอื่นๆ
ทั้งนี้ เจ้าของฟาร์มยังมีแนวคิดจะต่อยอดแปรรูปเป็น สบู่สาหร่าย แชมพูสาหร่าย โลชั่นสาหร่าย แต่ทั้งนี้ก็ต้องเรียนรู้วิธีการทำในลำดับต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจการเพาะพันธุ์สาหร่าย ทางฟาร์มก็เปิดให้ได้เรียนรู้ หรือหากสนใจสั่งซื้อสาหร่าย สามารถติดต่อฟาร์มสาหร่ายอายู ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-3242-5035 และ 06-4324-7794
