สุราษฎร์ธานี - ลงดาบแล้ว ขนส่งสุราษฎร์ฯ เคลียร์ปมร้อนรถตู้โดยสารสุราษฎร์ฯ-ภูเก็ตฉาว ล่าสุด สั่งปรับคนขับรถ พร้อมพักใบอนุญาตขับรถ 30 วัน และเรียกผู้ประกอบการมาดำเนินคดี
จากกรณีโลกโซเซียลรุมสวดยับพฤติกรรมคนขับรถตู้โดยสารสุราษฎร์ฯ-ภูเก็ต ประพฤติตนไม่เหมาะสม ขับรถเร็วเกินกำหนด สร้างความหวาดเสียวจนผู้โดยสารหวั่นเกิดอันตราย และขายตั๋วเกินราคา จนถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก สร้างความเสื่อมเสียให้แก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันนี้ (2 ก.ย.) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าว นายมานพ สุทธิพงษ์ ขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการตรวจสอบ พร้อมสรุปข้อเท็จจริง และรายงานในเบื้องต้นต่อตนแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพร้อมสรุปรวบรวมละเอียดข้อมูลพบว่า เกิดเหตุเวลา 17.30 น.วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2561 โดยรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0938 พังงา มี นายชาญณรงค์ บุญจุ้ย เลขที่ใบอนุญาต พง.69/2557 ที่อยู่ 45/13 หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา เป็นเจ้าของรถ และเป็นผู้ประกอบการขนส่ง วันเริ่มใบอนุญาต 10/07/2557 วันสิ้นใบอนุญาต 09/07/2562
และมี นายเวชยันต์ หย่องบางไทร ประเภทใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 ใบอนุญาตเลขที่ สฎ.00501/40 วันอนุญาต 04/07/2559 วันสิ้นอายุ 03/07/2562 ออกโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ขับขี่
ผลการตรวจสอบกับระบบ GPS รถคันหมายเลขทะเบียน 30-0938 พังงา ติดตั้ง GPS แล้ว กับบริษัท มายมูฟ เทคโนโลยี จำกัด ความเร็วสุดท้ายจากระบบ GPS กรมการขนส่งทางบก คือ 80 กม./ชม. ณ เวลา 09.33.02 น. และข้อมูลจากเวนเดอร์ผู้ให้บริการ GPS คือ 79 กม./ชม. ณ เวลา 09.33 น. แต่ในช่วงเกิดเหตุพบว่าผู้ขับขี่ไม่ได้เปิดระบบ GPS เชื่อมต่อกับศูนย์ และพบพฤติกรรมดังกล่าวของผู้ขับขี่ตามภาพปรากฏ ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้ดำเนินการออกหนังสือเรียกผู้ประกอบการขนส่งมาพิจารณาโทษ
ในกรณีทำการขนส่งในลักษณะประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต (ความผิดตามมาตรา 40) โดยจะพิจารณาโทษในอัตราสูงสุด และมีหนังสือเรียกผู้ประกอบการขนส่งเพื่อเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 71 ใช้รถที่มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์ GPS) และตามมาตรา 36 ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (มิได้เชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์ GPS)
พร้อมออกหนังสือเรียกพนักงานขับรถโดยสารคันที่เกิดเหตุเพื่อเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 102(4) ในข้อหาไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไม่ใช้ GPS เชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์ GPS) และพักใช้ใบอนุญาตขับรถของ นายเวชยันต์ ในเบื้องต้นเป็นเวลา 30 วัน พร้อมจะเข้าตรวจสอบบริษัทพีพี ที่เป็นผู้จำหน่ายตั๋วเกินราคาให้ผู้โดยสาร และตรวจสอบมีใบอนุญาตจำหน่ายตั๋วหรือไม่ โดยจะดำเนินการเข้าตรวจสอบในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และให้ผู้ประกอบการ และพนักงานขับรถเดินทางมาพบที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีเช่นกัน
จากกรณีโลกโซเซียลรุมสวดยับพฤติกรรมคนขับรถตู้โดยสารสุราษฎร์ฯ-ภูเก็ต ประพฤติตนไม่เหมาะสม ขับรถเร็วเกินกำหนด สร้างความหวาดเสียวจนผู้โดยสารหวั่นเกิดอันตราย และขายตั๋วเกินราคา จนถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก สร้างความเสื่อมเสียให้แก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันนี้ (2 ก.ย.) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าว นายมานพ สุทธิพงษ์ ขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการตรวจสอบ พร้อมสรุปข้อเท็จจริง และรายงานในเบื้องต้นต่อตนแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพร้อมสรุปรวบรวมละเอียดข้อมูลพบว่า เกิดเหตุเวลา 17.30 น.วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2561 โดยรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0938 พังงา มี นายชาญณรงค์ บุญจุ้ย เลขที่ใบอนุญาต พง.69/2557 ที่อยู่ 45/13 หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา เป็นเจ้าของรถ และเป็นผู้ประกอบการขนส่ง วันเริ่มใบอนุญาต 10/07/2557 วันสิ้นใบอนุญาต 09/07/2562
และมี นายเวชยันต์ หย่องบางไทร ประเภทใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 ใบอนุญาตเลขที่ สฎ.00501/40 วันอนุญาต 04/07/2559 วันสิ้นอายุ 03/07/2562 ออกโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ขับขี่
ผลการตรวจสอบกับระบบ GPS รถคันหมายเลขทะเบียน 30-0938 พังงา ติดตั้ง GPS แล้ว กับบริษัท มายมูฟ เทคโนโลยี จำกัด ความเร็วสุดท้ายจากระบบ GPS กรมการขนส่งทางบก คือ 80 กม./ชม. ณ เวลา 09.33.02 น. และข้อมูลจากเวนเดอร์ผู้ให้บริการ GPS คือ 79 กม./ชม. ณ เวลา 09.33 น. แต่ในช่วงเกิดเหตุพบว่าผู้ขับขี่ไม่ได้เปิดระบบ GPS เชื่อมต่อกับศูนย์ และพบพฤติกรรมดังกล่าวของผู้ขับขี่ตามภาพปรากฏ ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้ดำเนินการออกหนังสือเรียกผู้ประกอบการขนส่งมาพิจารณาโทษ
ในกรณีทำการขนส่งในลักษณะประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต (ความผิดตามมาตรา 40) โดยจะพิจารณาโทษในอัตราสูงสุด และมีหนังสือเรียกผู้ประกอบการขนส่งเพื่อเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 71 ใช้รถที่มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์ GPS) และตามมาตรา 36 ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (มิได้เชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์ GPS)
พร้อมออกหนังสือเรียกพนักงานขับรถโดยสารคันที่เกิดเหตุเพื่อเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 102(4) ในข้อหาไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไม่ใช้ GPS เชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์ GPS) และพักใช้ใบอนุญาตขับรถของ นายเวชยันต์ ในเบื้องต้นเป็นเวลา 30 วัน พร้อมจะเข้าตรวจสอบบริษัทพีพี ที่เป็นผู้จำหน่ายตั๋วเกินราคาให้ผู้โดยสาร และตรวจสอบมีใบอนุญาตจำหน่ายตั๋วหรือไม่ โดยจะดำเนินการเข้าตรวจสอบในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และให้ผู้ประกอบการ และพนักงานขับรถเดินทางมาพบที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีเช่นกัน