ชุมพร - ปภ.เขต 11 ทำสะพานเบลีย์ข้ามคลองยาวกว่า 40 เมตร หลังฝนตกหนักทางขาด ชาวสวนผลไม้ในอำเภอพะโต๊ะ ต้องเสี่ยงภัยใช้เชือกขึงทำกระเช้าลอยฟ้า และใช้ลากเรือลำเลียงทุเรียน มังคุดออกมาขายโลกภายนอก
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้พื้นที่ จ.ชุมพร ตั้งแต่ อ.หลังสวน อ.ละแม และ อ.พะโต๊ะ ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักดังกล่าว โดยเฉพาะ อ.พะโต๊ะ ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาเขตแดนระหว่าง จ.ชุมพร กับ จ.ระนอง เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้ทางสัญจรข้ามคลองปากทรง บริเวณบ้านห้วยเตย หมู่ที่ 2 ตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ถูกกระแสน้ำตัดขาด ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และเกษตรกรชาวสวน 9 หมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
โดยเฉพาะชาวสวนผลไม้ที่จำเป็นต้องทำทุเรียน และมังคุดออกส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้าจำเป็นต้องเสี่ยงภัยโดยการนำเชือกไนลอนขนาดใหญ่มาขึงทำเป็นราวข้ามคลองที่มีความกว้างประมาณ 30-40 เมตร เพื่อผูกกระเช้าใส่ผลไม้ทั้งทุเรียน และมังคุดข้ามคลอง ขณะที่ชาวบ้านบางรายใช้เรือท้องแบบผูกลากข้ามคลองมาตามแนวเส้นเชือกดังกล่าว สร้างความหวาดเสียว และเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก จนนายอัครชัย ชัยจิรฉายากุล นายอำเภอพะโต๊ะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ล่าสุด ขณะนี้ นายอุดม เพชรคุต ผอ.ศูนย์ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเขต 11 (ศ.ปภ.เขต 11) สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำสะพานเบลีย์ เข้าไปติดตั้งในเส้นทางข้ามคลองปากทรง หมู่ที่ 2 ตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ จุดที่เกิดอุทกภัยเส้นทางสัญจรถูกตัดขาดไม่สามารถขนส่งพืชผลการเกษตรออกสู่ตลาดได้ตามปกติ โดยสะพานเบลีย์ความยาว 45 เมตร เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน แต่เนื่องจากยังมีฝนตก และน้ำหลากจากเขาด้านบนลงมาอยู่เป็นบางช่วง เป็นอุปสรรคทำให้การปฏิบัติงานล่าช้า จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตั้งสะพานเบลีย์แล้วเสร็จเปิดให้ชาวบ้านใช้สัญจรได้แล้วแต่ต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากกระแสน้ำยังเชี่ยวกรากอยู่