พังงา - พื้นที่จังหวัดพังงา ฝนตกหนักต่อเนื่อง ถนนขาด น้ำท่วม ดินสไลด์หลายจุด แจ้งเตือนด่วนให้ประชาชนเฝ้าระวังหลายพื้นที่ ขณะสาวร้องวัดพัฒนาพื้นที่ทำน้ำท่วมบ้าน
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่กลางคืนที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.พังงา ทำให้น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ถนนสายตำบลบางไทร-ปากวีป บริเวณบ้านดอกแดง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา น้ำป่าจากบนภูเขาไหลหลากลงลำคลองบางม่วง ได้ซัดทางเบี่ยงที่กำลังมีการสร้างสะพานจนขาด ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ขณะที่ในพื้นที่ตำบลคลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง น้ำป่าจากบนภูเขาและที่สูงได้ไหลหลากเข้าท่วมขังในหลายหมู่บ้าน และได้ท่วมถนน กัดเซาะถนนจนเสียหายหลายจุด แต่รถยังสัญจรไปมาได้ พร้อมกับมีดินสไลด์ลงริมถนนอีกหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ สนง.ปภ.พังงา พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง อ.ตะกั่วทุ่ง และนายก อบต.คลองเคียน และผู้นำท้องที่ได้นำกำลังลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมกับสำรวจความเสียหายแล้ว
ขณะที่ในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่านั้น พบพื้นที่ ต.บางไทร หมู่ที่ 5 บ้านดอกแดง มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ และราษฎรได้รับความเดือดร้อนประมาณ 2 หลัง และ ทางเบี่ยงสะพานมุดชัน ที่อยู่ในระหว่างกำลังก่อสร้างเสียหาย 1 สาย ต.บางม่วง หมู่ที่ 8 น้ำท่วมถนนเพชรเกษม หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวก
ในอำเภอตะกั่วทุ่ง ต.คลองเคียน หมู่ที่ 1 บ้านคลองเคียน หมู่ที่ 5 บ้านติเต๊ะ หมูที่ 6 บ้านคลองใส หมู่ที่ 7 บ้านหาดทรายเปลือกหอย หมู่ที่ 8 บ้านอ่าวมะขาม ราษฎรได้รับความเดือดร้อนประมาณ 50 หลังคาเรือน
ด้าน น.ส.ศิระกาญจน์ คงสา อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่พังงา นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 18/31 ซอยถ้ำพุงช้าง ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา ที่ตนเองเช่าอาศัยอยู่ หลังจากต้องทนทุกข์ทรมานมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน จากเหตุการณ์ที่ฝนตกหนักทุกครั้งจะมีน้ำไหลออกมาจากกำแพงวัดประพาสประจิมเขต (วัดถ้ำพุงช้าง) ซึ่งอยู่ติดกับด้านหลังบ้าน เข้ามาท่วมภายในตัวบ้าน สร้างความเสียหายให้แก่ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก และมีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีก 3 หลัง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหานี้
น.ส.ศิระกาญจน์ คงสา เปิดเผยว่า ตนเองและเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีก 3 หลัง ต้องได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาที่ วัดประพาสประจิมเขต ได้นำเครื่องจักรเข้ามาพัฒนาพื้นที่วัด และได้ขุดต้นไม้บริเวณริมกำแพงวัดที่ติดกับหมู่บ้านออกไป หลังจากนั้น ในเวลาที่มีฝนตกหนัก น้ำภายในวัดก็จะไหลระบายออกมาทางกำแพงวัดที่มีช่องว่างใต้ดินเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านตลอดมา เคยแจ้งทางวัดไปก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่กลางคืนที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.พังงา ทำให้น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ถนนสายตำบลบางไทร-ปากวีป บริเวณบ้านดอกแดง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา น้ำป่าจากบนภูเขาไหลหลากลงลำคลองบางม่วง ได้ซัดทางเบี่ยงที่กำลังมีการสร้างสะพานจนขาด ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ขณะที่ในพื้นที่ตำบลคลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง น้ำป่าจากบนภูเขาและที่สูงได้ไหลหลากเข้าท่วมขังในหลายหมู่บ้าน และได้ท่วมถนน กัดเซาะถนนจนเสียหายหลายจุด แต่รถยังสัญจรไปมาได้ พร้อมกับมีดินสไลด์ลงริมถนนอีกหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ สนง.ปภ.พังงา พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง อ.ตะกั่วทุ่ง และนายก อบต.คลองเคียน และผู้นำท้องที่ได้นำกำลังลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมกับสำรวจความเสียหายแล้ว
ขณะที่ในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่านั้น พบพื้นที่ ต.บางไทร หมู่ที่ 5 บ้านดอกแดง มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ และราษฎรได้รับความเดือดร้อนประมาณ 2 หลัง และ ทางเบี่ยงสะพานมุดชัน ที่อยู่ในระหว่างกำลังก่อสร้างเสียหาย 1 สาย ต.บางม่วง หมู่ที่ 8 น้ำท่วมถนนเพชรเกษม หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวก
ในอำเภอตะกั่วทุ่ง ต.คลองเคียน หมู่ที่ 1 บ้านคลองเคียน หมู่ที่ 5 บ้านติเต๊ะ หมูที่ 6 บ้านคลองใส หมู่ที่ 7 บ้านหาดทรายเปลือกหอย หมู่ที่ 8 บ้านอ่าวมะขาม ราษฎรได้รับความเดือดร้อนประมาณ 50 หลังคาเรือน
ด้าน น.ส.ศิระกาญจน์ คงสา อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่พังงา นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 18/31 ซอยถ้ำพุงช้าง ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา ที่ตนเองเช่าอาศัยอยู่ หลังจากต้องทนทุกข์ทรมานมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน จากเหตุการณ์ที่ฝนตกหนักทุกครั้งจะมีน้ำไหลออกมาจากกำแพงวัดประพาสประจิมเขต (วัดถ้ำพุงช้าง) ซึ่งอยู่ติดกับด้านหลังบ้าน เข้ามาท่วมภายในตัวบ้าน สร้างความเสียหายให้แก่ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก และมีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีก 3 หลัง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหานี้
น.ส.ศิระกาญจน์ คงสา เปิดเผยว่า ตนเองและเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีก 3 หลัง ต้องได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาที่ วัดประพาสประจิมเขต ได้นำเครื่องจักรเข้ามาพัฒนาพื้นที่วัด และได้ขุดต้นไม้บริเวณริมกำแพงวัดที่ติดกับหมู่บ้านออกไป หลังจากนั้น ในเวลาที่มีฝนตกหนัก น้ำภายในวัดก็จะไหลระบายออกมาทางกำแพงวัดที่มีช่องว่างใต้ดินเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านตลอดมา เคยแจ้งทางวัดไปก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
