xs
xsm
sm
md
lg

ผู้แสวงบุญจากทั่วโลกพร้อมชาวไทยมุ่งหน้าสู่ทุ่งอารอฟะห์ เริ่มนับหนึ่งประกอบพิธีฮัจญ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ปัตตานี - ผู้แสวงบุญจากทั่วโลก พร้อมกับผู้แสวงบุญชาวไทย เตรียมมุ่งหน้าสู่ทุ่งอารอฟะห์ เพื่อนับหนึ่งของการประกอบพิธีฮัจญ์

วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากศูนย์ข่าวฮัจญ์ไทย กรมประชาสัมพันธ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ว่า ผู้แสวงบุญจากประเทศไทยเริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่ทุ่งอารอฟะห์ เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ ทำการวูกูฟ หรือเข้าพักอยู่ในบริเวณทุ่งอารอฟะห์ก่อนเที่ยงในวันที่ 9 ของเดือนฮัจญ์ หรือเดือนซุลฮิจญะห์ ตามปฏิทินอาหรับ เพื่อบำเพ็ญบุญ ขออภัยโทษจากพระผู้เป็นเจ้าจากสิ่งที่เคยล่วงละเมิด เคยกระทำ หรือฝ่าฝืนต่อบัญญัติของพระองค์อย่างจริงจัง และจริงใจ ถือเป็นภารกิจแรกที่เป็นภาคบังคับของการประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ตามปฏิทินสากล
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จะเรื่องห่วงเวลาที่กำหนดแตกต่างกัน ระหว่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กับส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ โดยการประกาศวันที่ 9 ซุลฮิจญะห์ ของสำนักจุฬาราชมนตรีของไทย ตรงกับวันที่ 21 สิงหาคมนี้ เพราะถือหลักการการดูเดือนที่ผ่านมา ในส่วนของประเทศไทยนั้นไม่มีใครเห็น จึงไม่สามารถกำหนดวันที่ 9 ของเดือนซุลฮิจญะห์ ตรงกับวันที่ 20 สิงหาคมนี้ได้ จึงกลายเป็นประเด็นขัดแย้งในมุมมองในทัศนะของผู้รู้ หรือนักวิชาการมุสลิมในพื้นที่อย่างกว้างขวาง จนเป็นที่มาของการออกอี้ดอีดิ้ลอัฎฮาในปีนี้แตกต่างกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นับเป็นปัญหาหนึ่ง และกลายเป็นปัญหาใหม่ของสังคมมุสลิมในประเทศ จะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้ง แต่สำหรับเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซีย บรูไนดารุสซาลาม และอินโดนีเซีย เป็นต้น ต่างก็ประกาศออกอี้ดอีดิ้ลอัฎฮาตรงกับคำประกาศของจุฬาราชมนตรีของไทย นั่นคือ รายอพร้อมกันในวันที่ 22 สิงหาคมนี้เช่นกัน

การเข้าพิธีวูกุฟที่ทุ่งอาราฟะห์นั้น คือ การบำเพ็ญบุญ การขออภัยโทษในการกระทำที่ผิดพลาด จากบทบัญญัติที่ให้มนุษย์ได้มาพบกันตรงสถานที่แห่งนี้ปีละหนึ่งครั้ง เพื่อมาร่วมในพิธีกรรมเดียวกัน แสดงออกถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นหนึ่งเดียว และความเป็นเอกภาพของพี่น้องมุสลิมด้วยกัน ไม่แบ่งชนชั้น ไม่แยกสีผิว ไม่แบ่งชนชาติ ต้องรักกันดั่งพี่น้องด้วยกัน หลังจากที่แยกย้ายไปอยู่ในหลายพื้นที่ จนกลายเป็นชนชาติต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันทั้งรูปร่าง ภาษา และวัฒนธรรม ภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เหมือนกัน โดยผู้แสวงบุญเพศชายจะต้องแต่งกายด้วยผ้าขาว 2 ชิ้น ส่วนผู้แสวงบุญหญิงจะแต่งกายด้วยชุดที่มิดชิด โดยพิธีจะเริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์คล้อยของวันที่ 9 เดือนฮัจย์ซุลฮิญะห์ จนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกดิน
 

 
จากนั้น ผู้แสวงบุญจะเดินทางไปพักแรมค้างคืนที่ทุ่งมุสดาลีฟะห์ เพื่อเก็บลูกหินคนละ 21 ก้อน ไว้เตรียมประกอบภารกิจขว้างเสาหินที่มีนาต่อไป ซึ่งเป็นลำดับขั้นตอนหารประกอบศาสนกิจฮัจญ์จนถึงวันรุ่งขึ้น จากนั้นผู้แสวงบุญก็จะเดินทางออกจากทุ่งมุสดาลีฟะห์ โดยจะเดินทางกลับที่พักที่ทุ่งมีนา ก่อนที่ผู้แสวงบุญจะเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางไปขว้างเสาหินที่ยุมรอตทั้ง 3 ต้น และจะทำการเตาวัฟ เวียนรอบวิหารกะบะห์ สะแอ หรือเดินรอบเขาศอฟัรกับเขามัรวะห์ 7 เที่ยว จากนั้นผู้แสวงบุญก็จะทำการขลิบเส้นผม หรือโคนผมทั้งหัว ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดเครื่องแต่งกายตามปกติ

สำหรับภารกิจของสำนักงานกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ในนาม “ทีมไทยแลนด์” ได้ประสานกับทางการซาอุดีอาระเบีย จัดระบบการขนส่งแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยที่จะเดินทางไปยังทุ่งอารอฟะห์ มุซดาลีฟะฮ์ และจะกลับสู่ทุ่งมีนาเพื่อขว้างเสาหินในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 21 สิงหาคมนี้
 




กำลังโหลดความคิดเห็น