xs
xsm
sm
md
lg

ถอดบทเรียน “ฟีนิกซ์” ล่ม คร่า 47 ชีวิตชาวจีน ยกเครื่องความปลอดภัยทางทะเล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เรือฟีนิกซ์ก่อนถูกคลื่นซัดล่มกลางทะเล
โศกนาฏกรรม “เรือฟีนิกซ์” ถูกคลื่นซัดล่มกลางทะเลอันดามัน บริเวณใกล้ๆ กับเกาะเฮ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวชาวจีนไปถึง 47 ชีวิต ถือเป็นการเสียชีวิตของคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวภูเก็ตรองจากเหตุการณ์มหันตภัยร้ายสึนามิ เมื่อปี 2547

เหตุเศร้าสลดครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่ยังสร้างความสูญเสีย และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลของนักท่องเที่ยวจีน และทั่วโลก ทันทีที่เกิดเหตุ นักท่องเที่ยวจีนไม่มั่นใจในมาตรการความปลอดภัยทางทะเลของภูเก็ต และสะเทือนใจที่คนจีนต้องมาเสียชีวิตจำนวนมาก ยกเลิกการจองห้องพักล่วงหน้าในภูเก็ตทันที

ท่องเที่ยวภูเก็ตอ่วม! จีนยกเลิกห้องพักล่วงหน้า สูญหลายพันล้าน

ก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ออกมาระบุถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตหลังเกิดเหตุเรือล่ม ว่า สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ได้สำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต มีการยกเลิกการจองห้องพักล่วงหน้าอย่างต่อเนื่องจากเอเยนต์ทัวร์ประเทศจีน เนื่องจากคนจีนไม่ต้องการเดินทางมาภูเก็ต ทั้งจากการสูญเสียนักท่องเที่ยวจีนถึง 47 คน และสิ่งที่มีการโพสต์ แชร์กันในโซเชียล ที่เป็นแง่ลบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ต ทำให้นักท่องเที่ยวจีนไม่กล้าที่จะเดินทางมาภูเก็ต

“คาดว่านักท่องเที่ยวจากจีนน่าจะชะลอการเดินทางมาภูเก็ตในช่วง 3 เดือนหลังเกิดเหตุ ทำให้เอเยนต์ทัวร์ในจีนทยอยยกเลิกการจองห้องพักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”

นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ระบุว่า นักท่องเที่ยวที่จะหายไปไม่ต่ำกว่า 40% ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตเมื่อปีที่แล้ว ในช่วงระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค.ซึ่งมีจำนวน 300,000 คน ปีนี้น่าที่จะลดลงประมาณ 100,000 กว่าคน เมื่อคำนวณจากค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวจีนที่รวมทุกอย่างตลอดทริปที่มาภูเก็ตแล้ว ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่คนละ 25,000 บาท จะทำให้ภูเก็ตสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปในช่วง 3 เดือนนี้ ไม่น่าจะต่ำกว่า 2,500 ล้านบาทอย่างแน่นอน

สิ่งที่นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ระบุไว้เป็นจริงตามนั้น ตั้งแต่เกิดเหตุเรือล่ม นักท่องเที่ยวจีนลดลงจริงๆ ธุรกิจโรงแรม และอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับทัวร์จีนได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า
เรือท่องเที่ยวจอดท่าอ่าวฉลอง
เซตซีโร่เรือท่องเที่ยวไม่ได้มาตรฐาน ไม่ปล่อยลงทะเล 

จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีนกลับทันที หลังจัดการค้นหาศพผู้เสียชีวิตครบทั้งหมด เร่งเยียวยาให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ชี้แจงข้อข้องใจของฝ่ายจีน เรียกทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ถอดบทเรียนจากเรือฟีนิกซ์ล่ม ยกเครื่องมาตรการความปลอดภัยการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลใหม่หมดทั้งหมด

เริ่มจากตรวจสแกนสภาพเรือนำเที่ยว และเรือโดยสารทุกลำในภูเก็ต ที่มีขนาดบรรทุกผู้โดยสารตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป ชนิดที่เรียกว่า เซตซีโร่ กันเลยทีเดียว งานนี้ “บิ๊กโจ๊ก“ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำทีมตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับกรมเจ้าท่า ตรวจสแกนเรือนำเที่ยวทั้ง 471 ลำ ประกาศลั่น ลำใดไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้นำมาให้บริการโดยเด็ดขาด

การตรวจเช็กสภาพครบทั้ง 471 ลำแล้ว พบมีประมาณ 10 ลำ ที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงให้ได้มาตรฐานก่อนที่จะอนุญาตปล่อยลงทะเล พร้อมเดินหน้าตรวจสอบต่อในส่วนของเรือสปีดโบ๊ต และเรือขนาดเล็ก
ท่าเรืออ่าวฉลอง หนึ่งในจุดเช็คพอยท์
ยกเครื่องเซตระบบความปลอดภัยทางทะเล เรียกความเชื่อมั่นกลับ

จังหวัดภูเก็ต ออกประกาศ กอ.รมน.ควบคุมเรือก่อนออกจากท่าทุกลำ ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา คุมเข้มเรือทุกลำที่จะออกจากท่า ต้องผ่านจุดเช็กพอยนต์จาก 24 ท่าเรือเท่านั้น บูรณาการกำลังจากหลายหน่วยงาน ตรวจทุกอย่าง ตั้งแต่ตัวเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิต บรรทุกน้ำหนักเกินที่กำหนดหรือไม่ กัปตันมีใบนายท้ายเรือหรือไม่ เด็กเรือพร้อมหรือไม่ รายชื่อผู้โดยสารทุกคนก่อนลงเรือผู้โดยสารจะต้องผ่านกล้อง CCTV เพื่อสแกนใหม่หน้า รวมถึงจะต้องพิจารณาประกาศแจ้งเตือนสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาควบคู่กันไปด้วย หากพบเรือลำใดไม่ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว จะไม่อนุญาตให้ออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด

เมื่อเรือออกไปจากฝั่งไปแล้ว จัดชุดเฉพาะกิจพิเศษ 2 ชุด ออกลาดตระเวนตรวจสอบเรือที่ฝ่าฝืน ตักเตือน เฝ้าระวัง พบละเมิดประกาศไล่เข้าฝั่ง รวมไปถึงให้การช่วยเหลือหากเกิดคลื่นลมแรง
รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา ดูระบบติดตามเรือ หรือ VTMS ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง
นอกจากนี้ ยังจัดทำฐานข้อมูลระบบออนไลน์เชื่อมโยงกันทุกท่าเรือ เพื่อให้ทราบถึงจำนวนผู้โดยสาร และเส้นทางเดินเรือ เพื่อสะดวกและง่ายต่อการบริหารจัดการหากเกิดเหตุขึ้น ขณะนี้ทางดีป้าได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และมีการอบรมบริษัทนำเที่ยวไปแล้ว ดีเดย์เริ่มใช้จริงจัง 1 ก.ย.นี้

มาตรการดังกล่าวอาจจะสร้างความยุ่งยากให้แก่ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบ้าง หลังมีประกาศออกไปก็มีเสียงสะท้อนมาจากผู้ประกอบการบ้างเล็กๆน้อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการประกาศห้ามเรือออกจากฝั่ง ที่ผู้ประกอบการเห็นว่า ออกครอบคลุมเกินไป จนผู้ประกอบการไม่สามารถทำทัวร์ไปตามเกาะแก่งต่างๆ ที่อยู่ใกล้เกาะภูเก็ต เช่น เกาะเฮ หรือเกาะที่อยู่ใกล้ๆ ได้ ขอให้หน่วยงานรัฐประกาศห้ามออกจากฝั่งแต่ละเส้นทาง เพื่อลดผลกระทบต่อทางผู้ประกอบการ

ของบกว่า 500 ล้าน ปรับปรุงระบบติดตามเรือ-ศูนย์ช่วยเหลืออ่าวฉลอง

ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ จะของบประมาณมาดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือ หากเกิดอุบัติเหตุทางเรือก็ต้องขอกันตอนที่เกิดเรื่องใหม่เช่นกัน

การปรับปรุงระบบติดตามเรือ หรือระบบ VTMS และระบบ AIS ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มีการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการที่ท่าเรืออ่าวฉลอง เมื่อใช้งานไปนานๆ ระบบ และอุปกรณ์เกิดชำรุด ไม่อัปเดต ใช้งานไม่ได้ ขาดงบปรับปรุง ทำให้ระบบทำงานได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์

จังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำแผนงาน/โครงการ ของบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในการประชุม ครม.สัญจรที่ชุมพร-ระนอง ระหว่างวันที่ 20-21 ส.ค.นี้ เพื่อปรับปรุงระบบติดตามเรือ VTMS และระบบ AIS รวมถึงเรดาร์ เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามเรือทุกลำที่อยู่ในน่านน้ำภูเก็ตและใกล้เคียง
ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง
รวมไปถึงจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอ่าวฉลอง ให้เป็นศูนย์ที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของบุคลากร อุปกรณ์การช่วยชีวิต เรือตรวจการณ์ เรือพยาบาล ด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท

เรือฟีนิกซ์ล่ม คร่าชีวิตคนจีนไปถึง 47 ศพ โศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส นำเหตุการณ์นี้มาถอดบทเรียน ยกเครื่อง เซตระบบมาตรการความปลอดภัยทางทะเลใหม่ทั้งหมด เรียกความมั่นใจ ความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้กลับสู่เกาะสวรรค์แห่งนี้ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น