xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแล้ว “ตลาดนัดชุมชนบ้านทรายขาว” ตลาดประชารัฐเพื่อชาวสวนผลไม้ในทุ่งหวัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เปิดตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ (ตลาดนัดชุมชนบ้านทรายขาว) ที่ ต.ทุ่งหวัง อ.เมืองสงขลา เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ชาวสวนผลไม้ในชุมชน

วันนี้ (3 ส.ค.) ที่สามแยกศาลาใหม่ บ้านทรายขาว หมู่ 7 ต.ทุ่งหวัง อ.เมืองสงขลา นายอนุสร ตันโชติกุล นายอำเภอเมืองสงขลา เป็นประธานเปิดตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ (ตลาดนัดชุมชนบ้านทรายขาว) เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ชาวสวนผลไม้ในชุมชนบ้านทรายขาว หมู่ 7 ต.ทุ่งหวัง ซึ่งในช่วงนี้มีผลไม้ตามฤดูกาลออกผลผลิตมาหลากหลายชนิด ทั้งทุเรียน มังคุด ลองกอง เงาะ กระท้อน โดยเฉพาะทุเรียนบ้านทรายขาว มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศในเรื่องของความอร่อยไม่แพ้ทุเรียนจังหวัดอื่นๆ

โดยทุเรียนก้านยาว กก.ละ 80 บาท ส่วนหมอนทอง กก.ละ 90 บาท มีลูกค้าจากจังหวัดพัทลุงเดินทางมาซื้อทุเรียนที่บ้านทรายขาวไปกิน รวมทั้งผลไม้อื่นๆ ด้วย เนื่องจากในวันนี้ชาวสวนผลไม้นำผลผลิตจากสวนตนเองมาขายตรงกับผู้ที่เดินทางมาเที่ยวที่ตลาดประชารัฐ บ้านทรายขาว ที่เปิดขายทุกวันพฤหัสบดีในช่วงเย็น
 

 
สำหรับตลาดประชารัฐสามแยกศาลาใหม่ ของตำบลทุ่งหวัง จะเป็นเส้นทางลัดที่มีรถผ่านตลอดเวลาเพื่อไป อ.หาดใหญ่ ไป อ.จะนะ โดยรถไม่ติด และหลังจากเลิกงานจะแวะซื้อผลไม้บริเวณนี้กลับบ้าน โดยไม่ต้องเข้าไปซื้อที่ตลาดในตัวเมือง อีกทั้งราคาไม่แพง เพราะเจ้าของสวนนำมาขายเองสดจากสวนทุกวัน

นายอนุสร ตันโชติกุล นายอำเภอเมืองสงขลา กล่าวว่า วันนี้มาเปิดตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ เป็นตลาดประชารัฐสามแยกศาลาใหม่ของตำบลทุ่งหวัง ซึ่งพี่น้องในโซนนี้ในชุมชนก็จะมีการปลูกผลไม้ตามฤดูกาลกันมาก และผลไม้ที่ขึ้นชื่อมายาวนานของบ้านทรายขาว ก็คือ ทุเรียน ผมคิดว่าทุเรียนบ้านทรายขาวเป็นที่รู้จัก และโด่งดังไปทั่วประเทศแล้ว มีคุณภาพสู้ทุเรียนเมืองนนท์ ทุเรียนศรีษะเกษ และทุเรียนที่ไหนๆ ที่เขาประชาสัมพันธ์กันอย่างขนานใหญ่ได้ไม่แพ้กัน และยังมีราคาที่ย่อมเยา

ซึ่งนโยบายของรัฐบาลต้องการที่จะสร้างแหล่งที่ทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้มากขึ้นในการสร้างตลาดประชารัฐขึ้นมา ซึ่งตลาดประชารัฐเป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้พี่น้องในชุมชนได้มีแหล่งขายใหม่ นอกเหนือจากตลาดที่มีอยู่เดิมแล้ว เพราะฉะนั้น การที่มีช่องทางให้ชาวสวนซึ่งอยู่ในพื้นที่ของหมู่บ้าน ได้มีตลาดสำหรับขายในพื้นที่ของหมู่บ้านเอง ไม่ต้องขนไปขายไกลถึง 10-20 กิโลเมตร เพื่อไปขายในตลาดในเมือง ก็จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายลง และจะเป็นช่องทางให้ชาวบ้านมาขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง มีรายได้จากการขายผลผลิตของตัวเอง
 





กำลังโหลดความคิดเห็น