xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัว “เจษฎา วงศ์เมฆ” หรือ “ลุงทอง” ชาวบ้านคนเดียวในหมายจับคดีเงินทอนวัด 10 รายชื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเจษฎา วงศ์เมฆ หรือ ลุงทอง
 
MGR Online - เปิดตัว “เจษฎา วงศ์เมฆ” หรือ “ลุงทอง” เซียนพระ ชาวบ้านคนดังเพียงหนึ่งเดียวในหหมายจับคดีเงินทอนวัด ที่ถูกหมายจับล่าสุด 10 คน มีเพียงหนึ่งเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช สอดคล้องกับบุคคลที่สมภารวัดท่าพญาในและวัดท่าพญานอก อ.ปากพนัง พูดถึง
                               
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากศาลอาญารัชดา กรุงเทพฯ ได้อนุมัติออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องคดีทุจริตในวงการพุทธศาสนา หรือคดีเงินทอนวัด จากนั้นได้มีการจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ ทั้งหมดในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
 

 
และ ม.157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพิ่มอีก 10 ราย โดยจับกุมได้ 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. จับได้ที่บ้านเลขที่ 199/8 หมู่ 9 หมู่บ้านบางกอก บูเลอวาร์ด ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม

2.นายแก้ว ชิดตะขบ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดอ่างทอง จับกุมได้ภายในหมู่บ้านอ่างทองธานี ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง, 3.นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อดีต พศ.จ.นครปฐม จับได้ที่บ้านเลขที่ 36/5 หมู่ 1 ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม, 4 .นายบุญเลิศ โสภา ผอ.พศ.จ. ลำปาง.จับได้ที่บ้านเลขที่ 2/2 ถ.แสงชูโต ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี
 

 
5.นายชยพล พงษ์สีดา อดีต รองผอ.พศ. จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 48/27 หมู่บ้านแสนรัก ซ.พระราม 2 ซ.21 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. 6.นางพรเพ็ญ กิติธรางกูร ผอ.กลุ่มระบบพัฒนาระบบบริหาร สำนักพุทธ จับได้ใน กทม.

ส่วน ผู้ต้องหารายที่ 7.น.ส.ประนอม คงพิกุล ผอ.พศ.จ.สมุทรปราการ, 8.นายณรงค์เดช ชัยเนตร ผอ.พศ.จ.สิงห์บุรี, 9.นายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผอ.ส่วนบรูณะพัฒนาวัด และ 10.นายเจษฎา วงศ์เมฆ ธุรกิจรับเหมา
 

 
ในการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของ MGR Online พบว่าในจำนวนนี้มีเพียงนายเจษฎา วงศ์เมฆ คนเดียวที่ไม่ใช่ข้าราชการ ซึ่งพบว่านายเจษฎา มีบ้านพักอยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีอาชีพเป็นเซียนพระรายหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์กับพระเถระทรงสมณะศักดิ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูป

มีญาติสนิทเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อยู่ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมูลเหตุที่นำไปสู่การออกหมายจับกุมครั้งนี้น่าจะเป็นกรณีการทุจริตเงินทอนวัดที่เกิดขึ้นและมีการตรวจสอบชัดเจนแล้วอย่างน้อย 2 วัดคือวัดมุขธาราราม และวัดท่าพญา ทั้ง 2 วัดอยู่ใน ต.บ้านเพิง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
 

 
ซึ่งวัดมุขธารารามนั้นจะเป็นที่รู้จักของชาวบ้านใน 3 ชื่อคือ วัดท่าพญา (นอก) วัดปากบางท่าพญา และวัดมุขธาราราม ซึ่งมีพระอธิการสง่า ฐานะจาโร เป็นเจ้าอาวาส ส่วนวัดท่าพญา เป็นอีกวัดที่อยู่ห่างจากวัดแรกเพียง 2 กิโลเมตร แต่ชาวบ้านจะรู้จักในชื่อ วัดท่าพญา (ใน) ซึ่งมีพระครูปัญญาสุทธิคุณ เป็นเจ้าอาวาส และเป็นเจ้าคณะปกครองสงฆ์ตำบลบ้านเพิง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา พระครูปัญญาสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดท่าพญา (ใน) เจ้าคณะตำบลบ้านเพิง อ.ปากพนัง เปิดเผยกับ MGR Online ว่า กรณีเงินทอนนั้นมีขั้นตอนที่มีคนเข้ามาดำเนินการ โดยเข้าใจว่าเป็นคนของสำนักงานพระพุทธศาสนา มาให้ทำโครงการบูรณะเสนาสนะ และให้ลงนามเจ้าอาวาสในเอกสาร
 

 
และทางบุคคลดังกล่าวได้เขียนรายละเอียดเอง หลังจากนั้นไม่นาน มีการโอนเงินเข้ามา 3 ล้านบาท แต่บุคคลนี้ได้บอกว่า วัดจะได้เพียง 7 แสนบาท ส่วนที่เหลือนั้นจะต้องนำไปแจกจ่ายกับวัดอื่นๆ ต่อไป

เช่นเดียวกับพระอธิการสง่า ฐานะจาโร เจ้าอาวาสวัดท่าพญา (นอก) เปิดเผยว่า การเข้ามาของบุคคลที่เข้ามาติดต่อ เข้าใจว่าเป็นข้าราชการของสำนักงานพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน โดยแจ้งว่าวัดจะได้เงินบูรณะเสนาสนะราว 2-3 แสนบาท และให้ลงนามไปโดยไม่เข้าใจขั้นตอน เนื่องจากเป็นวัดที่อยู่ชนบท ไม่เคยมีงบประมาณเช่นทำนองนี้

แต่เมื่อมีการโอนเงินปรากฏว่ามียอดเงิน 3 ล้านบาท และได้เงินจริงเพียง 7 แสนบาท เช่นเดียวกับวัดท่าพญา (ใน) ส่วนเงินที่เหลืออีก 2 ล้าน 3 แสนบาท บุคคลที่เข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาได้ให้โอนต่อไปยังบัญชีอื่น
 
พระครูปัญญาสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดท่าพญา (ใน)
 
โดยอ้างว่าเพื่อไปแจกจ่ายให้กับวัดอื่นๆ ต่อไป ในการการสืบสวนสอบสวนนั้นพบว่าข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงนายเจษฎา วงศ์เมฆ และสอดคล้องกับพฤติการณ์ที่เจ้าอาวาสทั้งสองวัดในอำเภอปากพนังเคยให้ข้อมูลไว้

สำหรับนายเจษฎา นั้นถือเป็นเซียนพระตัวยงคนหนึ่งมีสัมพันธ์กับหลายวัดในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งพระผู้ใหญ่ จึงเป็นช่องทางในการเข้าประสานงานได้และมีความน่าเชื่อถือ ในวงการเซียนพระเรียกกันว่า “ลุงทอง”
 
พระอธิการสง่า ฐานะจาโร เจ้าอาวาสวัดท่าพญา (นอก)
 
ขณะที่นายเจษฎา เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในทีมนักการเมืองรายหนึ่งจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

หลังจากนั้นได้หันมาสร้างพระเครื่องจำหน่ายในวงการ ปัจจุบันมีสุขภาพไม่สู้ดีนัก และมีรายงานว่าเจ้าตัวทราบเรื่องที่ถูกออกหมายจับแล้วและได้เดินทางออกจากบ้านในย่านตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ไปหลบยังสถานที่แห่งหนึ่ง
 


กำลังโหลดความคิดเห็น