ไม่ธรรมดา! ชาวตากใบส่งขายปลาฉิ้งฉ้างตากแห้งให้มาเลย์ สร้างรายได้งดงาม

 
นราธิวาส - ชาวตากใบ จ.นราธิวาส ทำปลาฉิ้งฉ้างตากแห้งส่งขายรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย สร้างรายได้หลักแสน โดยได้ยึดอาชีพนี้สืบทอดมาเป็นเวลานานกว่า 80 ปี

วันนี้ (20 ก.ค.) นางมาสือนะ บินยูโซ๊ะ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 บ้านกูแบยู ม.10 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ใช้พื้นที่ว่างตรงข้ามบ้านพักจำนวน 2 ไร่ ปลูกเป็นโรงเรือนสำหรับใช้เป็นพื้นที่ทำปลาฉิ้งฉ้าง หรือ ปลาฉิ้งฉั้ง ตากแห้งส่งขายในพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยได้ยึดอาชีพนี้สืบทอดมาเป็นเวลานานกว่า 80 ปี จากรุ่นย่าสู่รุ่นหลาน
 

 
ซึ่งปลาฉิ้งฉ้าง นางมาสือนะ ได้รับซื้อจากชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำการประมงชายฝั่งในเขตทะเล อ.ตากใบ ซึ่งเป็นปลาฉิ้งฉ้างตัวสีขาวที่อาศัยอยู่เฉพาะถิ่น ในราคากิโลกรัมละ 30 บาท แล้วนำไปแปรรูปเป็นปลาตากแห้ง ส่งขายไปให้ลูกค้าในประเทศมาเลเซีย ตกกิโลกรัมละ 230 บาท ซึ่งการทำปลาฉิ้งฉ้าง นี้จะทำได้ในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง เดือนพฤศจิกายน ของทุกปี

ส่วนการแปรรูปปลาฉิ้งฉ้างตากแห้งนี้มีกระบวนการที่ไม่ยุ่งยาก คือ เมื่อรับซื้อปลาจากชาวบ้านแล้ว ต้องนำปลาไปล้างกับน้ำให้สะอาด แล้วนำปลาไปต้มในกระทะที่น้ำเดือดจัด ประมาณ 5 นาที เมื่อปลาสุกแล้วนำปลาไปเทกระจายในตะแกรงเหล็กสี่เหลี่ยมที่เตรียมไว้ ก่อนจะนำออกไปตากแดด ซึ่งการตากแดดนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากอากาศร้อนจัดปลาก็จะแห้งในเวลา 1 วัน หากวันใดอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือมีเมฆฝนปกคลุมท้องฟ้า การตากปลาก็จะใช้เวลานานถึง 2 วัน ซึ่งกระบวนการแปรรูปนี้จะใช้แรงงานคนช่วยกันถึง 4 คน
 

 
ส่วนขั้นตอนสุดท้ายก่อนบรรจุถุงพลาสติกใสเพื่อนำไปจำหน่าย ซึ่งมีน้ำหนักถุงละ 10 กิโลกรัมนั้น เมื่อเราได้ปลาฉิ้งฉ้างที่ตากแห้งเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงกระบวนการใช้มือเด็ดหัวปลาที่ตากแห้งบรรจุใส่ถุง ประการสำคัญหัวปลาที่ถูกเด็ดแล้ว สามารถนำไปจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 14 บาท ซึ่งหัวปลานี้จะมีชาวบ้านที่มีอาชีพปลูกผักนานาชนิดขายมารับซื้อถึงบ้าน โดยจะนำหัวปลาไปหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพ เพื่อนำไปรดผักที่ปลูกจะโตเร็วและสีเขียวเข้มน่ารับประทาน

นอกจากนี้ นางมาสือนะ ยังเปิดเผยถึงการส่งปลาฉิ้งฉ้างขายในพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ว่า การส่งขายปลาฉิ้งฉ้างที่ตากแห้งนี้ จะนำขึ้นรถกระบะไปส่งให้ลูกค้าชาวมาเลเซีย โดยผ่านพรมแดน อ.ตากใบสัปดาห์ละ 2 เที่ยวๆ ละ 40 ถุง หรือ 400 กก. ตกกิโลกรัมละ 230 บาท ก็จะได้เงินในแต่ละเที่ยว 92,000 บาท ซึ่งถือว่ามีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ชาวบ้านและชาวประมงมีงานทำได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากเมื่อหมดฤดูทำปลาฉิ้งฉ้างตากแห้ง นางมาสือนะ ก็จะรับซื้อปลาทะเลชนิดต่างๆ จากชาวประมง เพื่อนำมาแปรรูปเป็นปลาเค็มตากแห้ง ส่งขายให้กับลูกค้าชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นวัฎจักรการทำธุรกิจแปรรูปปลาตลอดทั้งปี