ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต จัดระเบียบเรือท่องเที่ยว ตั้งจุดเช็กพอยนต์ให้เรือท่องเที่ยวทุกลำรายงานตัวก่อนออกจากท่า เตรียมตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอ่าวฉลอง และเกาะยาว จ.พังงา หวังสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว พร้อมถอดบทเรียนเหตุเรือล่มวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ส่วนคดีคืบหน้าเจ้าของเรือฝากขังศาลวันนี้
เมื่อเวลา 09.10 น. วันนี้ (16 ก.ค.) ที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายสมพงษ์ ปิ่นภักดี ผอ.คปภ.จ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการค้นหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งหมด
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้สามารถค้นหาร่างผู้เสียชีวิตครบทั้ง 47 ศพแล้ว และต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงอาสาสมัครทุกท่านที่ร่วมกันปฏิบัติการค้นหาในครั้งนี้ ทั้งจากประเทศจีน อังกฤษ ออสเตเรีย นิวซีแลนด์ สกอตแลนด์ โปรตุเกส และจากทัพเรือภาคที่ 3 ที่ร่วมกันกู้ร่างของผู้เสียชีวิตกลับขั้นมาได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะนำมาถอดบทเรียนเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหา สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต จากนี้จะมีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จะมีการบูรณาการทุกขั้นตอน ทั้งการแจ้งเตือน การช่วยเหลือขณะเกิดเหตุ การช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในภูเก็ต
“นอกจากนั้น ยังมีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอ่าวพังงา อ.เกาะยาว จ.พังงา โดยทั้ง 2 ศูนย์ จะต้องมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ และจะต้องเชื่อมโยงประสานข้อมูลกันอย่างเป็นรูปธรรม” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวและว่า
นอกจากนี้ ทางจังหวัดจะมีการจัดตั้งจุดเช็กพอยนต์ เพื่อตรวจความพร้อมของเรือท่องเที่ยวทุกลำที่จะออกจากฝั่ง โดยกำหนดไว้ทั้งหมด 14 จุด ตามท่าเรือต่างๆ ให้ครอบคลุมทั้งเกาะ ทั้งนี้ เพื่อให้เรือท่องเที่ยวรายงานตัวก่อนออกจากท่า เพื่อให้ทราบถึงจำนวนผู้โดยสาร ลูกเรือ รวมไปถึงเส้นทางการท่องเที่ยว หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น หน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือจะได้รับทราบข้อมูลเพื่อนำไปสู่การวางแผนให้การช่วยเหลือ
โดยจากนี้ไป ทางจังหวัดจะมีการจัดระเบียบเรือท่องเที่ยว โดยจะมีการตรวจสอบ และคุ้มเข้มในส่วนของตัวเรือ กัปตัน ผู้โดยสาร และท่าเรือ เป็นต้น
ด้าน พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ภารกิจการกู้ร่างศพที่ 47 สามารถกู้ได้เสร็จสิ้นแล้ว ทางศูนย์ค้นหาผู้ประภัยส่วนหน้าบริเวณอ่าวฉลอง ก็จะยุติหน้าที่ลง ได้ให้กำลังพลได้ไปปฏิบัติงานของหน่วยต่อไป
สำหรับแนวทางการป้องกันในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ได้มีการบูรณาการจัดกำลังพลหน่วยรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เจ้าท่า ทำการตรวจสอบเรือท่องเที่ยวที่มีขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไป ใน 4 ท่าเรือท่องเที่ยว ได้แก่ ท่าเรือวิศิษฐ์พันวา ต.วิชิต ท่าเรือรัษฎา ต.รัษฎา ท่าเทียบเรือฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง ท่าเรืออ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยทางทะเลให้แก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งให้การสนับสนุนจังหวัดภูเก็ตในการกวดขันเรือท่องเที่ยวอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ธีระพล พิพทย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้นำตัว น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล อายุ 26 ปี เจ้าของเรือฟีนิกซ์ ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดภูเก็ต สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องที่เหลือ หากมีการสอบปากคำ และเชื่อมโยงถึงใครก็จะมีการดำเนินตามกฎหมายเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น