ยะลา - พาไปดู “ต้นทุเรียนยักษ์” ขนาด 8-9 คนโอบลำต้น อายุมากกว่า 100 ปี แต่ยังคงให้ผลดก แถมรสชาติหวาน มัน อร่อย อยู่ภายในสวนผลไม้ที่ ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา
วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลาว่า ในช่วงนี้ผลไม้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาด ทั้งทุเรียน มังคุด และเงาะ ซึ่งมีอยู่เกือบทุกพื้นที่ เพราะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ส่วนใหญ่ประชาชนจะประกอบอาชีพเกษตรกรสวนผลไม้ และสวนยางพารา
ซึ่งในวันนี้จะนำไปชมต้นทุเรียนพันธุ์พื้นบ้าน ในพื้นที่ ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา ที่มีความแปลกเป็นตำนาน เพราะมีอายุมากกว่า 100 ปี อีกทั้งลำต้นที่มีขนาดสูงใหญ่ ให้ผลผลิตออกลูกดกทั้งต้น โดยต้นทุเรียนที่ว่านี้อยู่ในสวนของ นายพฤทธิพงษ์ บุรี เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียน และสวนผลไม้แห่ง ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา
นายพฤทธิพงษ์ บุรี เจ้าของสวนบอกว่า ต้นทุเรียนดังกล่าวนี้เป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง หรือที่เรียกว่าทุเรียนบ้าน ลักษณะผลจะไม่ใหญ่มาก ขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 500 กรัม ถึง 2 กิโลกรัม อีกทั้งเป็นต้นทุเรียนที่เก่าแก่ มีอายุมากกว่า 3 รุ่นอายุคนแล้ว ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า มาจนถึงรุ่นพ่อ และก็มาถึงรุ่นของตนเองก็เกินจาก 100 ปีแล้ว ลำต้นที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 8-9 คนโอบ ส่วนความสูงนั้นไม่สามารถวัดได้
“ตั้งแต่ผลผลิตออกมา ตนเองก็ต้องเข้าสวนมาเก็บทุเรียนทุกเช้า วันหนึ่งๆ นับร้อยลูก ช่วงแรกๆ ที่ผลผลิตออกมาก็มีราคาดีหน่อย ขายได้กิโลกรัมละ 35-40 บาท แต่ระยะหลังนี้ หลังจากที่มีผลผลิตจากหลายพื้นที่ออกสู่ท้องตลาด ราคาก็ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 14-18 บาท ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าก็จะมารับซื้อที่สวน และซื้อเป็นแบบเหมาราคา เพื่อนำเนื้อทุเรียนไปทำทุเรียนกวน” เจ้าของสวนกล่าว
นายพฤทธิพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับรสชาติของทุเรียนบ้านต้นนี้นั้น ถึงแม้ว่าจะมีเนื้อเพียงเล็กน้อย เพราะว่าเมล็ดจะมีขนาดใหญ่ แต่รสชาติความอร่อยนั้น นับว่าไม่เป็นรองทุเรียนพันธุ์จำพวกหมอนทอง หรือก้านยาวแน่นอน เพราะมีรสชาติที่หวาน และมันติดปาก ชวนให้ลิ้มลองได้รับประทานกัน และในปัจจุบันก็มีผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานทุเรียน หันมาให้ความนิยมการรับประทานทุเรียนบ้านพันธุ์พื้นเมืองกันมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ นายพฤทธิพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันเกษตรกรสวนทุเรียน ก็ยังคงกังวลในเรื่องของราคาที่ต่ำลง แม้ว่าในปีนี้ราคาทุเรียนจะสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็เป็นเฉพาะในช่วงแรกเท่านั้น หลังจากที่ผลผลิตออกมาเยอะ ก็ทำให้ราคาทุเรียนในพื้นที่มีราคาที่ต่ำกว่าช่วงแรกๆ เป็นอย่างมาก
