ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเร่งจัดระบบศูนย์ one stop service ในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิต และเป็นศูนย์ประสานงานดูแลผู้ประภัยเรือล่ม ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมทั้งได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มั่นใจตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสร็จวันนี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (7 ก.ค. 61) ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center : EOC) โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมหารือร่วมกับ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์จิรพันธ์ เต้พันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต, พลตำรวจตรี ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือร่วมกันในการจัดตั้งจุดบริการแบบ One Stop Service ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับญาติที่เดินทางมาติดตามหาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมว่า ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกันในเรื่องการจัดทำ One Stop Service ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นจุดในการประสานงานเบ็ดเสร็จในทุกเรื่อง และจะจัดบริการทั้งในส่วนของล่ามแปลภาษา การอำนวยความสะดวกเรื่องรถ ให้กับญาติของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิต รวมถึงขั้นตอนการพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อให้ญาติที่มาติดต่อเรื่องการพิสูจน์ศพ ซึ่งได้มีการซักซ้อมความเข้าใจกันทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นในการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้ที่เสียชีวิตได้มีทีมนิติเวชจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย แพทย์นิติเวชทันตแพทย์ ช่างภาพทางการแพทย์ จำนวน 4 ทีม ซึ่งสามารถตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ 4 ราย ต่อครึ่งชั่วโมง ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้เร็ว สำหรับในส่วนผู้เสียชีวิต 33 ราย ที่ได้พิสูจน์ไปเบื้องต้นแล้ว อาจจะมีการพิสูจน์เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ซึ่งคาดว่าในวันนี้จะสามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ได้หมด สำหรับศพใหม่ที่เข้ามา ก็สามารถดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ในวันนี้
ในขณะนี้การเก็บรักษาศพ ได้มีการส่งร่างผู้เสียชีวิตกระจายไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาล ในจังหวัดภูเก็ตร่วมด้วย เนื่องจากสถานที่เก็บศพที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ไม่เพียงพอ ในเบื้องต้นขณะนี้ได้มีการบริจาคตู้คอนเทนเนอร์มา 2 ตู้ ซึ่งเป็นตู้ที่ใช้เก็บรักษาศพได้ เมื่อได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำศพเก็บรักษาที่ตู้นี้ก็จะสามารถเก็บรักษาศพได้เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเก็บรักษาศพ
สำหรับในส่วนของการจัดระบบการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต วันนี้ได้มีการจัดระบบใหม่เป็น ในส่วนที่ให้ข้อมูลเบื้องต้น โดยจะมีล่าม และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ที่จะช่วยดำเนินการ ดูและดำเนินการให้ข้อมูลเบื้องต้นและคัดกรอง ว่า หากว่าเป็นญาติของผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิต
หากพบแล้วจะนำไปสู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นจุดที่จะมีการพิสูจน์เบื้องต้น เกี่ยวกับทางญาติ หลังจากนั้นจึงจะไปสู่ในเรื่องการจัดทำเอกสารต่างๆ ซึ่งในวันนี้ ได้มีการจัดขั้นตอนให้ชัดเจน มีการจัดล่ามในการแปล ซึ่งจะต้องมีการประชุมล่ามเพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกัน เกี่ยวกับการสื่อสาร รวมถึงเรื่องสถานที่ต่างๆ ว่าจะต้องดำเนินการในจุดใดบ้าง
รวมถึงเรื่องการอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถนำส่งระหว่างโรงแรม โรงพยาบาล สถานกงสุล และสนามบิน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดเตรียมรถไว้ให้ทั้งหมด ในขณะเดียวกันญาติที่ยังอยู่ระหว่างการติดต่อที่โรงพยาบาลฯ ทางโรงพยาบาลฯ ก็จะมีการจัดเตรียมอาหารและอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
โอกาสนี้ นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เรือฟินิกซ์ และ เรือเซเรเนต้า ล่ม ซึ่งได้พักรักษาตัวที่อยู่ที่พยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 3 ราย โดยได้สอบถามอาการของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำความห่วงจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมายังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะดูแลอย่างเต็มที่ในทุกเรื่อง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (7 ก.ค. 61) ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center : EOC) โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมหารือร่วมกับ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์จิรพันธ์ เต้พันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต, พลตำรวจตรี ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือร่วมกันในการจัดตั้งจุดบริการแบบ One Stop Service ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับญาติที่เดินทางมาติดตามหาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมว่า ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกันในเรื่องการจัดทำ One Stop Service ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นจุดในการประสานงานเบ็ดเสร็จในทุกเรื่อง และจะจัดบริการทั้งในส่วนของล่ามแปลภาษา การอำนวยความสะดวกเรื่องรถ ให้กับญาติของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิต รวมถึงขั้นตอนการพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อให้ญาติที่มาติดต่อเรื่องการพิสูจน์ศพ ซึ่งได้มีการซักซ้อมความเข้าใจกันทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นในการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้ที่เสียชีวิตได้มีทีมนิติเวชจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย แพทย์นิติเวชทันตแพทย์ ช่างภาพทางการแพทย์ จำนวน 4 ทีม ซึ่งสามารถตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ 4 ราย ต่อครึ่งชั่วโมง ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้เร็ว สำหรับในส่วนผู้เสียชีวิต 33 ราย ที่ได้พิสูจน์ไปเบื้องต้นแล้ว อาจจะมีการพิสูจน์เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ซึ่งคาดว่าในวันนี้จะสามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ได้หมด สำหรับศพใหม่ที่เข้ามา ก็สามารถดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ในวันนี้
ในขณะนี้การเก็บรักษาศพ ได้มีการส่งร่างผู้เสียชีวิตกระจายไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาล ในจังหวัดภูเก็ตร่วมด้วย เนื่องจากสถานที่เก็บศพที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ไม่เพียงพอ ในเบื้องต้นขณะนี้ได้มีการบริจาคตู้คอนเทนเนอร์มา 2 ตู้ ซึ่งเป็นตู้ที่ใช้เก็บรักษาศพได้ เมื่อได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำศพเก็บรักษาที่ตู้นี้ก็จะสามารถเก็บรักษาศพได้เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเก็บรักษาศพ
สำหรับในส่วนของการจัดระบบการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต วันนี้ได้มีการจัดระบบใหม่เป็น ในส่วนที่ให้ข้อมูลเบื้องต้น โดยจะมีล่าม และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ที่จะช่วยดำเนินการ ดูและดำเนินการให้ข้อมูลเบื้องต้นและคัดกรอง ว่า หากว่าเป็นญาติของผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิต
หากพบแล้วจะนำไปสู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นจุดที่จะมีการพิสูจน์เบื้องต้น เกี่ยวกับทางญาติ หลังจากนั้นจึงจะไปสู่ในเรื่องการจัดทำเอกสารต่างๆ ซึ่งในวันนี้ ได้มีการจัดขั้นตอนให้ชัดเจน มีการจัดล่ามในการแปล ซึ่งจะต้องมีการประชุมล่ามเพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกัน เกี่ยวกับการสื่อสาร รวมถึงเรื่องสถานที่ต่างๆ ว่าจะต้องดำเนินการในจุดใดบ้าง
รวมถึงเรื่องการอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถนำส่งระหว่างโรงแรม โรงพยาบาล สถานกงสุล และสนามบิน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดเตรียมรถไว้ให้ทั้งหมด ในขณะเดียวกันญาติที่ยังอยู่ระหว่างการติดต่อที่โรงพยาบาลฯ ทางโรงพยาบาลฯ ก็จะมีการจัดเตรียมอาหารและอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
โอกาสนี้ นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เรือฟินิกซ์ และ เรือเซเรเนต้า ล่ม ซึ่งได้พักรักษาตัวที่อยู่ที่พยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 3 ราย โดยได้สอบถามอาการของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำความห่วงจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมายังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะดูแลอย่างเต็มที่ในทุกเรื่อง