ตรัง - ได้ใจไปเต็มๆ ทีมเก็บรังนกนางแอ่นเกาะลิบง ยังคงปักหลักทำงานที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย อย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันจะไม่กลับบ้านที่ จ.ตรัง จนกว่าจะช่วย 13 ชีวิตได้สำเร็จ ไม่ว่าจะต้องอยู่นานแค่ไหน และทางทีมจะขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ กันเอง เพราะไม่อยากรบกวนผู้ใด
จากกรณีที่ชาวบ้านซึ่งมีอาชีพเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง จำนวน 8 คน นำโดย นายอะลิเฟน เทศนำ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านทรายแก้ว ต.เกาะลิบง ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์เรื่องถ้ำ ได้พร้อมใจกันเดินทางไปยัง จ.เชียงราย เพื่อหาหนทางช่วยเหลือผู้สูญหาย 13 ชีวิตภายในถ้ำหลวง เนื่องจากปกติแล้วชาวบ้านทีมนี้ล้วนแต่มีความสามารถในการปีนป่ายถ้ำบนภูเขาสูงต่างๆ ในท้องทะเลอันดามัน เพื่อเก็บรังนกนางแอ่นอย่างคล่องแคล่วชำนาญ ทั้งนี้ ชาวบ้าน และหน่วยงานต่างๆ บนเกาะลิบง ยังได้ช่วยกันระดมทุนเพื่อเป็นค่าเดินทางให้แก่ทีมนี้ โดยเฉพาะค่าเครื่องบิน เพื่อไปยัง จ.เชียงราย คนละ 2,890 บาท หรือรวมทั้งสิ้น 23,120 บาทนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีกระแสชื่นชมทีมเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะลิบงกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ซึ่งต่างยกย่องในความเสียสละ และความกล้าหาญ พร้อมให้กำลังใจในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ เพื่อนำ 13 ชีวิตกลับบ้านโดยเร็ว เช่น ทีมเกาะลิบงสู้ๆ เราชาวตรังเป็นกำลังใจให้พาน้องๆ ออกมาให้ได้ และดูแลตัวเองด้วย ขอให้ทุกคนปลอดภัย และสำเร็จในสิ่งที่หวังทุกประการ ขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ราบรื่นปลอดภัย เอาความหวังอันสว่างไสว กราบขอขมาเจ้าแม่ขุนน้ำนางนอน อ้อนวอนให้ 13 ชีวิตเข้มแข็ง ชาวไทย และเทศทุกแห่งเฝ้ารอคอยการกลับมา สู้ๆ นะทุกคน
นายเอกรินทร์ ปังตา แกนนำชาวบ้านบนเกาะลิบง กล่าวว่า ทีมเก็บรังนกนางแอ่นได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ และชาวบ้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำการสำรวจโพรงต่างๆ บนถ้ำหลวง นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ซึ่งตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง และจะมีการประชุมในช่วงเย็นของทุกๆ วัน เพื่อสรุปความคืบหน้าของงาน และวางแผนงานในวันต่อไป ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดต่างยืนยันที่จะปักหลักทำภารกิจนี้ต่อไปจนกว่าจะเจอทั้ง 13 ชีวิต โดยจะไม่เดินทางกลับ จ.ตรัง อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะกรณีใด หรือจะต้องใช้เวลายาวนานสักแค่ไหน ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ขณะที่อยู่ใน จ.เชียงราย ทางทีมจะขอรับผิดชอบกันเอง เพราะไม่อยากรบกวนผู้ใด
