ยะลา - ชาวไทยมุสลิมใน อ.เบตง จ.ยะลา และชาวมาเลเซีย เดินทางร่วมละหมาดฮายัติ หลังทราบข่าวเพื่อขอพรให้เยาวชนทีมฟุตบอล พร้อมโค้ชรวม 13 ชีวิต จากใต้สุด อ.เบตง จ.ยะลา สู่เหนือสุดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ติดอยู่ในถ้ำได้กลับออกมาอย่างปลอดภัย
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่มัสยิดกลางเบตง จ.ยะลา นายอารยะ อิมัม กรรมการมัสยิดกลางอำเภอเบตง พร้อมด้วยคณะกรรมการกลางอิสลามอำเภอเบตง ผู้นำศาสนา และประชาชนชาวไทยมุสลิมกว่า 200 คน ร่วมกันละหมาดฮายัติ และขอพรต่ออัลลอฮ์ จาก อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งอยู่ใต้สุดแดนสยาม สู่เหนือสุดที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อให้เยาวชน และผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่า ที่เข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และติดอยู่ภายในถึง 6 วัน ขณะที่การช่วยเหลือจากทุกฝ่ายที่ระดมกันเข้าไปตั้งแต่ในวันแรก เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.61 แต่ยังคงพยายามกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่เจอเยาวชนผู้เคราะห์ร้าย
ทั้งนี้ การละหมาดฮายัติเพื่อขอพรจากอัลลอฮ์ เพื่อให้เยาวชนทีมฟุตบอลพร้อมโค้ชรวม 13 ชีวิตได้กลับออกมาจากถ้ำทุกคนด้วยความปลอดภัย และถือเป็นความความห่วงใยที่ส่งตรงจากจังหวัดชายแดนภาคใต้สุดแดนสยามของไทย รวมทั้งพี่น้องมุสลิมที่อยู่ในมาเลเซีย หลังทราบข่าวได้เดินทางมาร่วมฮายัติเพื่อขอพรในวันศุกร์ด้วย
หลังเสร็จพิธีละหมาดขอพร นายอารยะ อิมัม กรรมการมัสยิดกลางเบตง ได้กล่าวว่า การละหมาดฮายัติ และขอพรต่ออัลลอฮ์ในครั้งนี้ เพื่อให้เยาวชน และผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สายได้ยิน และได้กลับมาสู้อ้อมอกของคนในครอบครัว
ทั้งนี้ ทุกศาสนาสอนให้ทุกคนทำในสิ่งที่ดี ดังนั้น ทางคณะกรรมการอิสลามอำเภอเบตง ได้ร่วมกันหาช่องทางที่จะสามารถช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ด้วยกัน แม้ว่าจะนับถือศาสนาต่างกัน แต่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทำการค้นพบ และช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำให้ได้โดยเร็วที่สุด