นราธิวาส - ผบช.ภาค 9 นำแถลงข่าวสะสาง 2 คดีสำคัญ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทั้งคดีวางแผนฆ่าจากปมเหตุเรื่องชู้สาว และคดียึดไปป์บอมบ์ได้ที่ อ.ตากใบ พร้อมเผยคนร้ายเคยนำมาใช้ก่อเหตุแล้ว 83 ลูก
วันนี้ (22 มิ.ย.) พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 ได้เดินทางมายัง สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อแถลงข่าว 2 คดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ระแงะ และ อ.ตากใบ ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนในรอบเดือนมิถุนายน 2561 โดยมี พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จ.นราธิวาส, พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส, พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ, พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.ตากใบ, พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ทพ.45 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยให้การต้อนรับ
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 ได้แถลงข่าวกรณี นายสะบูดิง ดือราแม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/3 ม.2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส คนถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ยิงเสียชีวิตบนถนนบ้านเจ๊ะเก ม.2 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ พร้อมทั้งได้เผารถจักรยานยนต์ก่อนหลบหนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ จนสามารถจับกุมตัว นายซูพัดหลี เง๊าะเจ๊ะยะ อายุ 26 ปี และนายซูพัดหลีได้ให้การซักทอดถึงพวกอีก 3 คน ที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนั้น คือนายวายูตี ดิงมะนอ, นายมะซอฮี เจ๊ะอูมา และนายอาดือนัน สาเม๊าะ ซึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่นำไปสู่การจับกุมที่บ้านพักของแต่ละคน พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน อาวุธปืนพก 2 กระบอก และเสื้อที่สวมใส่ใช้ก่อเหตุ
ส่วนปมเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้เสียชีวิตไปติดพันกับภรรยาของนายมะซอฮี คือ น.ส.ฮายาตี ตาเย๊ะ แล้วนายมะซอฮีได้วางแผนลวงให้ผู้เสียชีวิตมาพบ และช่วยกันรุมทำร้าย ก่อนที่นายมะซอฮี จะใช้อาวุธปืนของนายซูพัดหลี ยิงผู้เสียชีวิต ก่อนหลบหนีได้ร่วมกันเผารถจักรยานยนต์เพื่ออำพรางคดี และให้เจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นเรื่องของคดีความมั่นคง
ต่อมา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 ได้แถลงข่าวกรณี ด.ต.เอนก เต็มพร้อม ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. และพวกรวม 3 นาย สามารถตรวจยึดระเบิดไปป์บอมบ์ จำนวน 41 ลูก พร้อมอุปกรณ์วงจรจุดชนวนระเบิดได้หลายรายการ ขณะที่ตั่งจุดตรวจเพื่อจับความเร็วรถ บนถนนสายสุไหงโก-ลก-ตากใบ ช่วงบริเวณบ้านสะหริ่ง ม.1 ต.โฆษิต อ.ตากใบ เมื่อช่วงเวลา 11.30 น. ของวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ร่วมขนย้ายวัตถุระเบิดในครั้งนี้แล้ว พบว่ามีด้วยกัน จำนวน 4 คน รวมถึงตัวของนายซานูซี ยาแต ที่ถูกจับกุม และระเบิดไปป์บอมบ์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้ครั้งนี้ ตรวจสอบพบคนร้ายเคยนำมาใช้ก่อเหตุแล้ว จำนวน 83 ลูก ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ระเบิดทำงาน 60 ลูก ไม่ทำงาน 23 ลูก ตั้งแต่ปี 2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เป็นคนในพื้นที่ อ.บาเจาะ และ อ.จะแนะ และถูกคนร้ายเสียชีวิตเอง 2 ราย ที่ไปขว้างระเบิดที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
ด้าน พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้กล่าวถึงกรณีคนร้ายเมื่อก่อเหตุแล้ว มักจะหลบหนีไปซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้านนั้นว่า ตนจะปรึกษากับแม่ทัพภาค 4 เพื่อวางมาตรการในการประมวลพื้นที่ริมพรมแดนเป็นห้วงๆ ว่าสมควรที่จะต้องพิจารณาให้ประชาชนงดข้ามแดนไปมาหาสู่ระหว่างกัน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งอาจป้องกันการเล็ดรอดไม่ให้กลุ่มคนร้ายนำวัตถุระเบิดหรืออุปกรณ์ และสารตั้งต้นข้ามมาในพื้นที่ฝั่งไทยต่อไป โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ประเทศเพื่อนบ้านในการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะมีความร่วมมือซึ่งกันและกัน
