ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.สงขลาแถลงผลการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่รวม 6 คดี พร้อมของกลางทั้งยาบ้า ไอซ์ และกัญชารวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาได้ 9 คน หลบหนีอีก 2 คน พบเป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีทั้งติดต่อกับกลุ่มว้าแดงโดยตรง และเอเยนต์ลำเลียงยาเสพติดส่งในหลายพื้นที่ของภาคใต้ และประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (21 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้า สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สภ.หาดใหญ่ และหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ แถลงผลการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.สงขลา ในช่วงระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 9 ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ หรือชุดตะวัน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. สามารถจับกุมได้รวม 6 คดี ได้ผู้ต้องหาทั้งชายและหญิง 9 คน และมีที่ยังหลบหนีการจับกุมอีก 2 คน
พร้อมกับยึดของกลางล็อตใหญ่เป็นยาบ้ารวม 261,243 เม็ด ไอซ์กว่า 2.2 กิโลกรัม กัญชาอัดแท่ง 6 แท่ง น้ำหนัก 6 กิโลกรัม ต้นกัญชาสด 5 ต้น พร้อมยึดรถกระบะ 2 คัน รถเก๋ง 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด นอกจากนี้ ยังมีการยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และอายัดเงินสดในบัญชีธนาคารอีกจำนวน 2.5 ล้านบาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้นประมาณ 35 ล้านบาท
สำหรับผลการจับกุมในคดีใหญ่ที่น่าสนใจ คือการจับกุม นายสุทธิดล หรือป้าง แสงใสแก้ว อายุ 54 ปี และภรรยา พร้อมของกลางยาบ้า 101,000 เม็ด และยึดรถเก๋ง 1 คัน ได้คาโรงแรมชื่อดังกลางเมืองหาดใหญ่ ซึ่งต้องมีการส่งสายลับ และเจ้าหน้าที่เฝ้าแกะรอยติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 2 เดือน และต้องใช้เงินล่อซื้อเกือบ 3 ล้านบาท เนื่องจากเป็นเครือข่ายใหญ่ที่ติดต่อซื้อยามาจากลุ่มว้าแดง ประเทศเมียนมาร์โดยตรง
นอกจากนี้ยังจับกุม นายยูนุส หรือนุส บิลอะหลี อายุ 20 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตามประกบ ก่อนรวบตัวได้ในขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับของกลางไอซ์หนัก 2 กิโลกรัม ซึ่งมีการขนส่งมากับรถกระบะขนส่งพัสดุ และเป็นการจับกุมได้คาหนังเขา และอีกคดีคือการจับกุม นายณเดชน์ หรือบอล เสียงชื่น อายุ 28 ปี และนายกฤษฎา หรือสนุ้ก ไชยแพทย์ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 140,000 เม็ด ที่ขนมากับรถยนต์กระบะ และสั่งยึดทรัพย์ทันที 2 ล้านบาท
พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา เผยว่า สำหรับยาเสพติดทั้งหมดส่วนใหญ่จะถูกลำเลียงไปยังหลายปลายทางในหลายจังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง รวมทั้งส่งต่อไปยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยปัจจุบันได้มีการใช้วิธีการลำเลียงที่หลากหลาย และมีกลุ่มผู้กระทำผิดหลายหลายที่มีอายุน้อยเข้าร่วมเครือข่ายด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนไปยังเครือข่ายที่เหลือทั้งหมดต่อไป
