ตรัง - ตำรวจตรัง ตั้งชุดเฉพาะกิจตามล่าตัวคนร้ายที่เหลืออีก 1 คน ในคดีร่วมกับนักโทษที่ถูกประหารชีวิตไปแล้ว ฆ่าชิงทรัพย์นักเรียน ม.5 แต่ยอมรับคงยากพอสมควร เพราะคดีเกิดมานาน และมีพยานแค่เพียงคนเดียว
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ ได้บังคับโทษตามคำพิพากษาของศาล ด้วยการประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ หรือมิ๊ก หลงจิ อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ โดยหลังจากการประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษเข้าร่างกาย ต่อมา ได้นำร่างมอบให้แก่ทางญาติ จนมีการฝังร่างตามพิธีทางศาสนาอิสลามยังบ้านเกิด ที่บ้านนาป้อ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง แล้วนั้น
ขณะที่ นางยุคล สุขมาก อายุ 47 ปี แม่ของ นายดนุเดช หรือน้องช้าง อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวัดควนวิเศษมูลนิธิ กล่าวว่า การที่ศาลมีคำสั่งตัดสินให้ประหารชีวิตคนร้ายที่ก่อเหตุลงมือฆ่าลูกชายของตนเอง พอทราบข่าวก็รู้สึกพอใจต่อคำสั่งที่ให้ความยุติธรรมต่อคดีนี้ และกับครอบครัวตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุคนร้ายที่โดนประหารไม่ได้กระทำเพียงคนเดียว มีผู้อื่นร่วมกระทำด้วย ตนเองยังติดใจ และขอวิงวอนให้ตำรวจจับคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุอีกหลายคนมารับโทษกรรมที่ก่อไว้ให้ได้ อย่าปล่อยให้คนร้ายลอยนวล ส่วนความคิดเห็นส่วนตัวในเรื่องการประหารชีวิต ก็คิดว่าหากผู้ที่ทำในสิ่งไม่ถูกต้อง ก็ต้องอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายเหมือนกันทุกคน
ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองตรัง ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนเร่งรัดคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พฤติการณ์ในคดีนี้มีคนร้ายอยู่จำนวน 2 คน ตามที่พยานในที่เกิดเหตุให้การไว้ คนแรกคือ นักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ หรือมิ๊ก หลงจิ อายุ 26 ปี ที่ศาลได้ตัดสินรับโทษประหารชีวิตไปแล้ว ส่วนอีกคนยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี แต่ยังไม่ทราบตัวคนร้ายว่าเป็นใคร เนื่องจากว่าได้นำตัวผู้ต้องสงสัยในจำนวนหลายคนมาให้ประจักษ์พยานที่มีอยู่เพียงคนเดียว คือ แฟนสาวของนายดนุเดช หรือน้องช้าง ที่ถูกแทงด้วยอาวุธมีด จำนวน 24 แผล ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นใคร
ดังนั้น ก็เลยจำเป็นต้องมีการสืบสวนต่อ ขณะนี้คดีก็ยังเดินอยู่ตามปกติ ไม่มีการหยุดสืบสวนติดตามแต่อย่างใด เพียงแต่เร่งรัดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานมาให้ได้ในอายุความ 20 ปี แต่ในขณะนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นมาหลายปี การที่จะมาติดตามหาตัวคนร้ายที่เหลืออยู่ก็ถือว่ายากขึ้นมาในระดับหนึ่ง เนื่องจากวันเวลาเปลี่ยนไป การจดจำของพยานก็จะเปลี่ยนไปด้วย แต่ตำรวจก็ไม่ได้ลดละความพยายามรีบเร่งรัดหาตัวคนร้ายมาให้ได้
อีกทั้งผู้บังคับบัญชาภายใต้การนำของ พล.ต.ต.สมพงศ์ ทองใบ ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้มีการสั่งการให้ตั้งทีมคณะชุดสืบสวนสอบสวนเฉพาะกิจ ร่วมกับคณะทำงาน พร้อมมีการประชุมร่วมกันติดตามคดีให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องเริ่มต้นจากพยานที่มีอยู่คนเดียวเป็นหลัก และหาพยานเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ถือว่าคล้ายเป็นการเริ่มต้นคดีใหม่ ส่วนตัวมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการประหารชีวิตว่า ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานตาม ป.วิอาญา ที่กำหนดไว้ ไม่มีความคิดอย่างอื่น เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม