สุราษฎร์ธานี - ขนมจีนคลุกน้ำปลาอาหารกลางวันเด็กโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พ่นพิษหลังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกหนังสือแถลงข่าวโต้ชาวบ้าน พร้อมระบุชื่อ - นามสกุล ที่อยู่ ของผู้ร้องเรียน อดีต ผอ.โรงเรียน ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดแถลงขอโทษผู้เสียหาย พร้อมสั่งการให้ปกครองและตำรวจดูแลความปลอดภัยผู้ร้องเรียน และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป
จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิป โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เด็กนักเรียนอนุบาลกินขนมจีนคลุกน้ำปลาในถาดหลุม พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง ต่อมาได้มีคำสั่ง ย้ายนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ออกจากพื้นที่ ไปช่วยราชการประจำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต2 (สพป.สฎ เขต 2 ) ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา และทางเขตพื้นที่การศึกษาร่วม ป.ป.ช.ประจำ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนให้ตรวจสอบความผิดของ ผอ.โรงเรียนจำนวน 10 ข้อ
พบประเด็นความผิดวินัยร้ายแรงจำนวน 5 ข้อ 1.เรื่องโครงการอาหารกลางวันไม่ได้ 2.เรื่องถนนภายในโรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐาน 3.ขายน้ำอัดลมให้เด็ก 4.ขายปาล์มน้ำมันโรงเรียนนำเงินไปใช้ส่วนตัว 5.เสาไฟฟ้า 8ต้นปักจริง 6ต้น มีโทษให้ออกหรือไล่ออกจากราชการตามที่เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องนั้น
ต่อมาศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดได้มีหนังสือแถลงข่าวตอบโต้กรณีชาวบ้านที่ออกมาให้เรียกร้องให้ทางผู้บังคับบัญชาของเขตการศึกษาและผู้บังคับบัญชาของศูนย์ดำรงธรรมตรวจสอบกรณี ศูนย์ดำรงธรรมได้มีหนังสือตอบกรณีปัญหาการร้องเรียนว่า ไม่มีมูลและมีบางเรื่องแต่ได้ว่ากล่าวตักเตือน ผอ.คนดังกล่าว แต่ชาวบ้านไม่พอใจเข้าใจว่า ศูนย์ดำรงธรรมรับรองพฤติกรรมของ ผอ.นั้นถูกต้อง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา แต่การออกหนังสือการแถลงข่าวของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนั้นกับเปิดเผยชื่อจริงนามสกุลจริงของผู้ร้องเรียนออกมาด้วย ซึ่งเป็นการขัดต่อมติ ครม.และเป็นสิ่งที่อาจขัดต่อกฎหมายที่ทางศูนย์ดำรงธรรมกระทำการดังกล่าวไม่เหมาะสมทั้งที่เป็นหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องปกปิดชื่อผู้ร้องเรียนเป็นความลับ จึงเป็นเหตุให้มีประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นในทางลบในโลกโซเซียลเป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลาง นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกมาแถล่งข่าวถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นพร้อมกล่าวขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษกรณีดังกล่าว โดยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีไม่ได้มีเจตนาที่จะเผยแพร่เอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารภายในทางหวัดได้ดำเนินการมาด้วยเป็นอย่างดี ทั้งนี้ทั้งนั้นจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กำชับผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการต่างๆพึงระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลผู้ร้องเรียน ไม่ให้เล็ดรอดออกไปอีก อันที่จะส่งกระทบต่อผู้ร้องเรียน
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้กำชับสั่งการให้นายอำเภอท่าชนะ และฝ่ายความมั่นคง เข้าไปดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มกำลังและความสามารถ ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงขออภัยมา ณ.โอกาสนี้ ซึ่งตนเชื่อว่ากรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และได้สั่งการเข้มงวดกวดขั้นไม่ให้มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีก สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นตนได้สั่งตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการต่อไป