xs
xsm
sm
md
lg

“สวนของพ่อ” ชวนนักท่องเที่ยวมาลองทำกาแฟในแบบของคุณเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
นายสุวัฒ นุชม่วง อายุ 53 ปี เกษตรกรหมู่ที่ 1 บ้านหนองชุมแสง ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และครอบครัว ได้โค่นต้นยางพาราที่ปลูกรอบบ้านราว 5 ไร่เพราะราคาตกต่ำ เพื่อปรับเปลี่ยนมาเป็นสวนสมรม (สวนผสมผสาน) ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยใช้ชื่อว่า “สวนของพ่อ” ซึ่งประกอบไปด้วยพืชผักผลไม้นานาชนิด อาทิ ทุเรียน ลองกอง ขนุน ฝรั่ง ไผ่ รวมทั้งพืชผักผลไม้พื้นบ้านที่บางชนิดพบเห็นได้ยากแล้ว ตลอดจนถึงการเลี้ยงสัตว์ เช่น หมู แพะ เป็ด ผึ้ง ปลา
 

 
อย่างไรก็ตาม พืชผักผลไม้ที่เห็นจะดูโดดเด่นมากที่สุดในสวนแห่งนี้ก็คือ "กาแฟสายพันธุ์โรบัตต้า" ซึ่งได้ปลูกสลับลงไปในพื้นที่ประมาณ 60 ต้น และกำลังออกดอกออกผลต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 2 แล้ว นับเป็นสวนกาแฟแห่งเดียวของตำบลอ่าวตง และมีความสมบูรณ์แห่งหนึ่งของจังหวัดตรัง จนสามารถให้ผลผลิตถึงปีละ 4 รอบ แทนที่ได้เพียง 2-3 รอบ สำหรับพื้นที่ภาคใต้โดยทั่วไป อันเนื่องมาจากการดูแลเอาใจใส่ และดูแลรักษาต้นกาแฟด้วยระบบอินทรีย์ จึงมั่นใจได้อย่างเต็มที่ในเรื่องของความปลอดภัยสำหรับการนำไปบริโภค
 

 
ทั้งนี้ “สวนของพ่อ” จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับกาแฟ นับตั้งแต่การเก็บเมล็ดกาแฟจากต้น เพื่อนำมาตากแดด คั่ว ตำ กะเทาะเปลือก รวมทั้งชงและดริป หรือจิบกาแฟสดๆ ในราคาแก้วละ 20 บาท ซึ่งจะให้ความหอมและความอร่อยแบบธรรมชาติ ควบคู่กับการนั่งฟังเพลงโฟล์คซองเพื่อชีวิตท่ามกลางสวนไผ่ที่ร่มรื่น สร้างทั้งรอยยิ้ม ความประทับใจ และความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง เพราะยังแทบไม่มีสวนกาแฟแห่งใดในประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้ได้ทำกิจรรมแบบครบวงจรเช่นนี้
 

 
สำหรับเมล็ดกาแฟที่นักท่องเที่ยวได้ลงมือคั่วและตำ ส่วนใหญ่จะซื้อกลับไปไว้ชงดื่มกิน ด้วยความรู้สึกที่ภาคภูมิใจในฝีมือของตนเอง หรืออาจซื้อเมล็ดกาแฟที่ทางสวนได้คั่วไว้แล้ว เพื่อนำไปตำและชงดื่มกินที่บ้านก็ได้ ในราคาขวด (แบน) ละ 50 บาท ซึ่งล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการต่อยอด ด้วยการนำกาแฟไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนม รวมทั้งเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เนื่องจาก 2 ทายาทของครอบครัวนี้ คือ นายภานุพงศ์ นุชม่วง จบมาทางด้านอาหาร ขณะที่ นางสาวมัลลิกา นุชม่วง จบมาทางด้านแพทย์แผนไทยประยุกต์
 

 
นอกจากนั้น ทางสวนยังจัดให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่หลากหลายทั้งวันทั้งคืน เช่น การไปเก็บพืชผักมาปรุงเป็นอาหาร เพื่อทานกับข้าวซ้อมมือแบบวิถีชาวบ้านในอดีต และการเก็บผลไม้ตามฤดูกาลมาทานสดๆ ใต้โคนต้น รวมทั้งการให้อาหารหมู แพะ ปลา การเดิมชมธรรมชาติ หรือกางเต็นท์นั่งมองจันทร์และนอนนับดาว จนทำให้สวนแห่งนี้กลายเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านการเกษตรและการท่องเที่ยวที่มีความคึกคัก ถึงแม้จะแค่เปิดตัวมาเพียงแค่ไม่กี่เดือน และจะตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองตรังถึง 60 กิโลเมตรก็ตาม
 

 
“สวนของพ่อ” มีค่าบริการสำหรับการมาเที่ยวชมทั่วไป พร้อมอาหาร 1 มื้อ ในราคาหัวละ 100 บาท หรือจะมาตั้งแค้มป์ ซึ่งมีเต็นท์ 1 หลังพร้อมอาหาร 2 มื้อ ในราคาหัวละ 200 บาทก็ได้ โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 095-2300-795 และ 091-040-1000
 




 
 ___________________________________________________________________________
          
          เรื่อง/ภาพ : เมธี เมืองแก้ว
 


กำลังโหลดความคิดเห็น