กระบี่ - กลุ่มชาวบ้านในตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ จำนวนกว่า 200 คน คัดค้านกรณีกองทัพบก มีโครงการรังวัดพื้นที่จำนวน 5,000 ไร่ ในเขตทุ่งเลี้ยงสัตว์หนองเป็ดน้ำ เพื่อกันพื้นที่ สร้างสนามฝึกทางยุทธวิธี สุดท้ายเคลียร์กันได้

วันนี้ ( 4 มิ.ย.) กลุ่มชาวบ้านในตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ จำนวนกว่า 200 คน ได้เดินทางรวมตัวกันที่บริเวณ ศาลาเอนกประสงค์ ม.9 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองจังหวัดกระบี่ เพื่อคัดค้านกรณีกองทัพบก มีโครงการรังวัดพื้นที่จำนวน 5,000 ไร่ ในเขตทุ่งเลี้ยงสัตว์หนองเป็ดน้ำ เพื่อกันพื้นที่ สร้างสนามฝึกทางยุทธวิธี ของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ พร้อมถือป้ายข้อความต่อต้าน และ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าว ปัจจุบันชาวบ้านกว่า 200 ราย ครอบครองปลูกที่พักอาศัย ทำสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันมานานกว่า 30 ปี แล้ว และจะไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่
นายจำนิ วังช่วย ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุ่งหนองเป็ดน้ำ อยู่ในความดูแลของอำเภอคลองท่อม ชาวบ้านกว่า 200 ราย ได้ครอบครองทำประโยชน์ปลูกปาล์ม และยางพาราเลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 30 ปี แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จะมารังวัดแนวเขต และ กันพื้นที่ จำนวนกว่า 5 พันไร่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่การฝึกซ้อมรบยิงปืน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านครอบครองทำประโยชน์ อยู่ก่อน

จึงต้องออกมารวมตัวคัดค้าน และ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือ สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณประโยชน์ ทางกรมที่ดินได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงให้พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันกับทหารมานาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 แต่มาวันนี้ ทหารจะมากันพื้นที่ใช้เป็นสนามฝึกรบ สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน

ต่อมา พ.อ.อุทัย รุ่งสังข์ รอง ผบ.มนทลทหารบก ที่43 (ทุ่งสง) และเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 1 ได้มาพบกับกลุ่มชาวบ้านพร้อมชี้แจง ว่า พื้นที่ทุ่งหนองเป็ดน้ำ มีเนื้อที่ 11,000 ไร่ เมื่อปี 2538 ทางกองทัพบก ได้ขอใช้ พื้นที่ดังกล่าว 5พันไร่ จากกระทรวงมหาดไทย แบ่งเป็นที่ตั้งกองพันจำนวน 625ไร่ และ เป็นสนามฝึกจำนวน 5,000 ไร่ แต่ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้เข้ามาครอบครองปลูกปาล์มน้ำมัน และ ยางพารา ในพื้นที่ กองทัพจึงได้มีโครงการ ขอถอนสภาพทางยุทธวิธี ทบ.สาขา ทภ.4 จากกระทรวงมหาดไทย เพื่อ ตั้งชื่อค่ายอย่างเป็นทางการ โดยกองทัพภาคที่ 4 ได้มอบหมายให้ ร.15 พัน 1 ไปทำการรังวัด พื้นที่

สำหรับทางออกคือในส่วนพื้นที่ ที่ชาวบ้านมีอาสินอยู่ก็สามารถทำประโยชน์ต่อไปได้ จนกว่าต้นปาล์มหรือต้นยางจะหมดอายุ ส่วนรายไหนเดือดร้อนจริงๆก็ให้ แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาหาทางช่วยเหลือเป็นรายๆไป นอกจากนี้ในส่วนของคดีที่มีการแจ้งความชาวบ้านข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ 214ราย ทางตำรวจ ก็จะไม่ดำเนินคดี ทำให้ชาวบ้านต่างก็พอใจ และแยกย้ายกันเดินทางกลับ
วันนี้ ( 4 มิ.ย.) กลุ่มชาวบ้านในตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ จำนวนกว่า 200 คน ได้เดินทางรวมตัวกันที่บริเวณ ศาลาเอนกประสงค์ ม.9 ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองจังหวัดกระบี่ เพื่อคัดค้านกรณีกองทัพบก มีโครงการรังวัดพื้นที่จำนวน 5,000 ไร่ ในเขตทุ่งเลี้ยงสัตว์หนองเป็ดน้ำ เพื่อกันพื้นที่ สร้างสนามฝึกทางยุทธวิธี ของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ พร้อมถือป้ายข้อความต่อต้าน และ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าว ปัจจุบันชาวบ้านกว่า 200 ราย ครอบครองปลูกที่พักอาศัย ทำสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันมานานกว่า 30 ปี แล้ว และจะไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่
นายจำนิ วังช่วย ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุ่งหนองเป็ดน้ำ อยู่ในความดูแลของอำเภอคลองท่อม ชาวบ้านกว่า 200 ราย ได้ครอบครองทำประโยชน์ปลูกปาล์ม และยางพาราเลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 30 ปี แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จะมารังวัดแนวเขต และ กันพื้นที่ จำนวนกว่า 5 พันไร่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่การฝึกซ้อมรบยิงปืน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านครอบครองทำประโยชน์ อยู่ก่อน
จึงต้องออกมารวมตัวคัดค้าน และ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือ สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณประโยชน์ ทางกรมที่ดินได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงให้พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันกับทหารมานาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 แต่มาวันนี้ ทหารจะมากันพื้นที่ใช้เป็นสนามฝึกรบ สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน
ต่อมา พ.อ.อุทัย รุ่งสังข์ รอง ผบ.มนทลทหารบก ที่43 (ทุ่งสง) และเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 1 ได้มาพบกับกลุ่มชาวบ้านพร้อมชี้แจง ว่า พื้นที่ทุ่งหนองเป็ดน้ำ มีเนื้อที่ 11,000 ไร่ เมื่อปี 2538 ทางกองทัพบก ได้ขอใช้ พื้นที่ดังกล่าว 5พันไร่ จากกระทรวงมหาดไทย แบ่งเป็นที่ตั้งกองพันจำนวน 625ไร่ และ เป็นสนามฝึกจำนวน 5,000 ไร่ แต่ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้เข้ามาครอบครองปลูกปาล์มน้ำมัน และ ยางพารา ในพื้นที่ กองทัพจึงได้มีโครงการ ขอถอนสภาพทางยุทธวิธี ทบ.สาขา ทภ.4 จากกระทรวงมหาดไทย เพื่อ ตั้งชื่อค่ายอย่างเป็นทางการ โดยกองทัพภาคที่ 4 ได้มอบหมายให้ ร.15 พัน 1 ไปทำการรังวัด พื้นที่
สำหรับทางออกคือในส่วนพื้นที่ ที่ชาวบ้านมีอาสินอยู่ก็สามารถทำประโยชน์ต่อไปได้ จนกว่าต้นปาล์มหรือต้นยางจะหมดอายุ ส่วนรายไหนเดือดร้อนจริงๆก็ให้ แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาหาทางช่วยเหลือเป็นรายๆไป นอกจากนี้ในส่วนของคดีที่มีการแจ้งความชาวบ้านข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ 214ราย ทางตำรวจ ก็จะไม่ดำเนินคดี ทำให้ชาวบ้านต่างก็พอใจ และแยกย้ายกันเดินทางกลับ