สุราษฎร์ธานี - ทำลายแล้วระเบิด 3ลูก ในเหมืองแร่ที่สุราษฎร์ หลังคนงานพลาดบึ้มสนั่น ดับ 1 เจ็บ 1 ด้านผู้ว่ากำชับเข้มล้อมคอกทุกเหมืองแร่ และ เหมืองหิน ให้เจ้าหน้าที่เร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการตรวจเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยป้องกันเหตุซ้ำโดยเฉพาะอุปกรณ์สื่อสารและชนวนไฟฟ้าสถิตลงเหมือง
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดในเหมืองแร่อัครพัฒไมนิ่ง จำกัด เลขที่ 30 ม.5 ต.พรุพี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย บาดเจ็บ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร.ได้ส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบการกระทำผิดเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.5 บก.ปทส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ใช้ในกิจการเหมืองแร่ในคลังเก็บเพื่อความปลอดภัยและไม่พบสิ่งผิดปกติ
โดย เมื่อเวลา 10.40 น.วันนี้ ( 1 มิ.ย.61 ) ทางเจ้าหน้าที่ ชุดอีโอดีได้ลงพื้นที่เป็นวันที่ 3 พร้อมประเมินสถานการณ์ และ มั่นใจว่ามีความปลอดภัย แล้ว จึงอนุญาตให้คนงานเหมืองแร่ดำเนินติดเครื่องยนต์นำรถแบ็คโฮ 2 คัน และ รถขุดเจาะ ออกจากจุดเกิดเหตุ พร้อมกับใช้เครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกให้เห็นพิกัดท่อและสายไฟระเบิดอย่างชัดเจนโดยใช้เวลาประมาณ 1.30 นาที
จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.10 น.ทางชุดอีโอดี ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดของเหมืองแร่ ใช้สายไฟเชื่อมต่อจากจุดฝังระเบิดขึ้นบนปากบ่อประมาณ 200 เมตร แล้ว สั่งให้ทุกคนออกห่างจากจุดเกิดเหตุกว่า 200 เมตร จึงกดชนวนระเบิดทำลายพร้อมกันทั้ง 3 ลูก ซึ่งการทำลายวัตถุระเบิดและการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรผ่านไปด้วยดีถึงแม้ว่าขณะกำลังจะกดชนวนระเบิดมีฝนตกลงมาค่อนข้างหนาเม็ด
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวสรุปสถานการณ์ ว่า เหตุการณ์คลี่คลายได้ทั้งหมดแล้ว เริ่มต้นจากเคลื่อนย้ายรถแบ็คโฮ 2 คัน และ รถสำหรับขุดเจาะ 1 คัน รวม 3 คัน ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนทำลายระเบิดทั้ง 3 ลูกแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นความประมาทของผู้ปฎิบัติงานที่พกพาอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารลงไปทำงาน ดังนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการทุกเหมืองแร่ ขอให้เข้มงวดกวดขันในเรื่องของความปลอดภัย ห้ามนำอุปกรณ์สื่อสาร หรือ ตัวชนวนที่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตลงไปโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันเหตุซ้ำ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่จะเกิดขึ้นมาอีก