ปัตตานี - จนท.โรงพยาบาลปัตตานี ลงพื้นที่เยี่ยมหนุ่มป่วยกล้ามเนื้อขาอักเสบติดเชื้อ เพื่อสร้างความเข้าใจ และกล่าวขอโทษในความพกพร่องของทางโรงพยาบาล เผยเตรียมพร้อมให้การรักษาอีกครั้ง เร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยเป็นพิเศษ
วันนี้ (30 พ.ค.) เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลปัตตานี นำโดยแพทย์หญิงกรพินธ์ แก้วกระจ่าง นายแพทย์ชาญการ นางจินตา เกียรติศักดิ์โสภณ หัวหน้าพยาบาล นางรอมือเลาะ หะยีเดร์ หัวหน้ากลุ่มงานสวัสดิการสังคมและหลักประกันสุขภาพ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมดูอาการ และให้กำลังใจ นายบุรฮาน ตาเยะ อายุ 36 ปี ที่บ้านเลขที่ 32/9 ซอย 2/1 ถนนหน้าวัง ต.จะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี หลังจากที่ผู้ป่วยได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ถึงการบริการที่ไม่ดีของโรงพยาบาลปัตตานี หลังเข้ารับการรักษาจนทำให้ติดเชื้อเป็นแผลเน่าที่ขา จนต้องหนีออกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน
โดยทางเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลปัตตานี ได้มอบกระเช้าของขวัญเพื่อแสดงความเป็นห่วง และกล่าวขอโทษถึงข้อบกพร่องการให้บริการที่ไม่ดีของโรงพยาบาล จนทำให้เกิดปัญหาขึ้น ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ไม่ได้มีการสื่อสารที่เข้าใจต่อผู้ป่วย พร้อมกับได้รับเรื่องร้องเรียนจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ม.41
แพทย์หญิงกรพินธ์ แก้วกระจ่าง นายแพทย์ชาญการ โรงพยาบาลปัตตานี กล่าวว่า ก็ต้องขอโทษด้วย เราก็ไม่นึกว่ามันจะไปรุนแรงถึงขนาดนี้ หลังจากทราบข่าวก็ไม่สบายใจ คือผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการถูกเหล็ก ทางหมอก็ได้รักษาด้วยวิธีเข้าเฝือกอ่อน คือหมอคิดว่าการใช้เฝือกอ่อนมันจะไม่ได้ไปกดเนื้อเหมือนเฝือกจริงๆ ที่จะพันรอบขา แต่อันนี้มันแค่ครึ่งเดียว คือเจตนาของหมอต้องการให้ร่างกายเราพัก แต่ไม่ได้ไปดูตรงแผล
คือหนึ่งเรื่องของการติดเชื้อ เนื่องจากว่ามันไม่ได้ถูกทับอย่างรุนแรง แต่มันมีรอยกวนตรงนั้น เรานึกว่ามันเล็กน้อย ทีนี้เนื่องจากทำงานสะพานปลาด้วยทำให้เชื่อโรคที่เข้าไป ทำให้เป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อ มีแผลนิดเดียวแต่มันทำอันตรายรุนแรง แล้ววันที่มาหมอบอกว่าปกติแค่บวม เนื่องจากมันบวม แล้วต้องการให้คนไข้ได้หยุดพัก ทีนี้เนื่องจากแผลที่ถลอกเขามองไม่เห็นมันแห้งแล้ว แต่เชื้อโรคมันก็คงเข้าไปข้างในแล้ว
โดยหลักแล้วการรักษาด้วยวิธีนี้ เราต้องการให้คนไข้หยุดพัก แต่เมื่อมันเจ็บมันปวดเราต้องเปิดดู เราต้องเปิดทันทีด้วยซ้ำไป แต่ทีนี้ผู้ป่วยไม่รู้ จุดนี้ที่ทำให้เชื้อโรคเข้าไปมันก็เลยหนัก แล้วการผ่าตัดจะต้องทำหลายๆ ครั้ง แต่ด้วยความไม่เข้าใจจึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนที่คนทั่วไปข้องใจว่าทำไมแผลนิดเดียวถึงต้องผ่าตัด เพราะเป็นเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ มันก็เลยเยอะ ก็อยากขอโอกาสให้เราได้ดูแลอีกสักครั้ง
ด้านนางรอมือเลาะ หะยีเดร์ หัวหน้ากลุ่มงานสวัสดิการสังคมและหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราคนปัตตานีเราไม่อยากให้ย้ายสิทธิ์ เราอยากให้อยู่ปัตตานี อยากให้ความรู้สึกที่ไม่ดีทั้งหลายหายไป เรามาเริ่มต้นใหม่ เรามีการสื่อสารเป็นที่รู้จักแล้ว ระดับผู้บริหารก็มาแล้ว ก็ไม่ได้บังคับอะไร แต่ก็อยากให้บ้านอยู่ไหน ก็ใกล้บ้านใกล้ใจ และเราก็จะขอดูแลเป็นกรณีพิเศษ
นางอาซูรา เปาะอาเดะ ภรรยาของผู้ป่วย กล่าวว่า รู้สึกดีใจและขอบคุณทางโรงพยาบาลที่ได้มาเยี่ยม เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล แต่ก็ยังรู้สึกกังวลถ้าจะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานีอีก จึงขอปรึกษากับครอบครัวก่อนว่าจะตัดสินใจอย่างไร ตอนนี้ได้ทำการย้ายสิทธิการรักษาพยาบาลไปที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว เพราะแฟนไม่มั่นใจ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาขอโอกาสก็จะขอคิดดูก่อน
สิ่งที่กังวลที่สุดตอนนี้คือเรื่องรายได้ ทุกวันนี้จะต้องใช้จ่ายวันละประมาณ 400-500 บาท ค่ากินของลูก 3 คน ค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทางที่จะต้องไปหาหมอ มาเจอปัญหาแบบนี้สามีทำงานไม่ได้ ตนเองก็เป็นแม่บ้านต้องดูแลสามี และลูกคนเล็กอายุเพียง 7 เดือน และยังเป็นหนี้เอาที่ดินไปจำนอง เอาเงินมารักษาอีก 260,000 บาท จริงๆ ปกติก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ที่บ้านปากน้ำกับแม่ แต่พอแฟนไม่สบายก็ต้องแยกออกมา เพราะแฟนขออยู่เงียบๆ เขาเครียด ยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายมีเพิ่ม
นายบุรฮาน ตาเยะ อายุ 36 ปี กล่าวว่า ย้ายสิทธิ์ในการเข้ารักษาพยาบาลไปโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว เพราะกลัวเขาทำไม่ดีอีก แต่วันนี้เจ้าหน้าที่มาบอกว่าจะดูแลเป็นพิเศษ จัดหมอเฉพาะทางที่เก่งให้ดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้ากลับมารักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ก็จะลองขอคิดดูก่อน


