“หมอจุ๊ก” ชี้กลไกรัฐหนุนทำลายธรรมชาติตัวยง ภาพสะท้อน “ผู้ว่าฯสตูล” ปากเปราะดันสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา

 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” ชี้กลไกรัฐคือผู้ทำลายธรรมชาติตัวยง บทสะท้อนจาก “ผู้ว่าฯสตูล” ฟันธงทันทีหลังยูเนสโกขึ้นทะเบียน “อุทยานธรณีโลก” ไม่ส่งผลกระทบต่อการสร้าง “ท่าเรือน้ำลึกปากบารา” เพราะใช้เนื้อที่เพียง 0.01% ของพื้นที่อุทยานธรณีโลกเท่านั้น

วันนี้ (6 พ.ค.) นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลกล่าวถึงท่าเรือน้ำลึกปากบาราจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุทยานธรณีโลก โดยมีใจความดังนี้
 

 
0.01% ที่จะสูญเสียเมื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา นั้นแปลว่าดังภาพนี้ !!!

ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลได้ให้ความเห็นที่ลดทอนคุณค่าจังหวัดสตูลได้อย่างน่าตกใจ “ท่าเรือน้ำลึกปากบาราไม่กระทบอุทยานธรณีโลกจังหวัดสตูล เพราะใช้เนื้อที่เพียง 0.01 เปอร์เซ็นต์ ของอุทยานเท่านั้น”

แต่แท้จริงท่าเรือน้ำลึกปากบารานั้นประกอบด้วย ท่าเรือที่ถมทะเลนับพันไร่ อยู่กลางทะเลห่างฝั่งไปถึง 4 กิโลเมตร ต้องมีการสร้างกำแพงกันคลื่น ต้องมีพื้นที่ร่องน้ำให้เรือใหญ่กลับลำได้ แถวตลอดแนวอ่าวต่างๆ ใกล้ท่าเรือก็จะเป็นที่จอดเรือใหญ่ เรือที่จอดทุกลำต้องทอดสมอ น้ำทิ้ง น้ำมันเครื่องยนต์ปนเปื้อนลงทะเล ซึ่งแน่นอนว่า “ทะเลสตูลอันสมบูรณ์ด้วยปะการังจะสูญสลายในไม่กี่ปี”

เรามีเพียงสองทางเลือก ที่ไม่อาจประนีประนอมให้อยู่ด้วยกันได้ จะเอาธรรมชาติที่งดงามที่สุดของมรกตแห่งอันดามัน หรือจะเอาท่าเรือน้ำลึกปากบาราที่ถูกผลักดันมาทุกรัฐบาลไม่ว่าประชาธิปไตยหรือเผด็จการ

กรมเจ้าท่าคือเจ้าของ Project งานนี้เป็นโครงการของรัฐไม่ใช่ของเอกชน รัฐไทยคือผู้ทำลายธรรมชาติตัวยง เมื่อกระแสค้านแรงก็นิ่งเงียบ เมื่อคนค้านอ่อนแรงก็ฟื้นพลังปีศาจเสนอผลักดันใหม่ ผีดิบท่าเรือปากบาราจึงยังอยู่ เพราะกรมเจ้าท่าผู้อยู่เบื้องหน้ายังไม่มีแววจะยกเลิกโครงการ ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลก็เป็นเพียงตัวประกอบที่มาเต้นตามบทเท่านั้น