พัทลุง - ผู้คนสุดเวทนางานศพ “ชาวมันนิ” หลังพบตั้งอยู่บริเวณศาลทวดหลักเขต อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ริมถนนเขาพับผ้า สายเก่าพัทลุง-ตรัง ที่มีเพียงเต็นท์ 1 หลัง
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้คนและนักท่องเที่ยวพบเห็นสุดเวทนา กับงานบำเพ็ญกุศลศพชาวป่ามันนิหรือเงาะป่าซาไกที่น่าสงสาร ซึ่งเป็นศพของ นายวี ศรีธารโต อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นบิดาของนางกบ ศรีธารโต (ซาไกที่ขายสมุนไพรริมถนนบนเขาพับผ้า พัทลุง-ตรัง) โดยสถานที่จัดงานอยู่บริเวณถนนเขาพับผ้าสายเก่าพัทลุง-ตรัง ห่างจากศูนย์จำหน่ายของฝากและศาลทวดหลักเขต อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ประมาณ 200 เมตร มีเต็นท์เพียงหลังเดียวและใช้ใบไม้กิ่งไม้เพิงรอบๆ เต็นท์กันสายฝน สำหรับตั้งศพจัดพิธีสวดพระอภิธรรม รวมถึงตั้งครัว ตั้งแต่เสียชีวิตจนถึงวันนี้เป็นเวลา 10 วัน ได้มีการสวดพระอภิธรรมเพียงครั้งเดียว
ขณะที่ตามธรรมชาติชีวิตความเป็นอยู่ของชาวป่ามันนิหรือเงาะป่าซาไก ในพื้นที่จังหวัดพัทลุงนั้น ไม่ว่าจะเป็นชาวป่ามันนิหรือเงาะป่าซาไก ที่อาศัยบริเวณเทือกเขาบรรทัด อำเภอป่าบอน อำเภอตะโหมด และอำเภอกงหรา เมื่อเสียชีวิตแล้วชาวป่ามันนิหรือเงาะป่าซาไก จะช่วยกันฝังร่างทันที ไม่มีพิธีกรรมหรือพิธีทางศาสนาใดๆ แต่ในรายของ นายวี ศรีธารโต นั้น ได้มี นายโสพิศ ขุนชิต ชาวบ้านอำเภอควนขนุน นำมาจากจังหวัดสตูล อาศัยบริเวณริมถนนสายเขาพับผ้า พัทลุง-ตรัง พร้อมชาวป่ามันนิหรือเงาะป่าซาไก อีกจำนวน 6 คน หนึ่งในจำนวนนั้นคือ นางกบ ศรีธารโต ซึ่งเป็นเมียของนายนายโสพิศ ขุนชิต เพื่อหาของป่าและสมุนไพรขายบริเวณข้างถนนสายดังกล่าว
ซึ่งการตั้งศพ นายวี ศรีธารโต นั้น หลายคนรวมถึงนักท่องเที่ยวที่ผ่านเห็นสุดเวทนา หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมไม่รีบฝังร่างตามประเพณีของชาวป่ามันนิหรือเงาะป่าซาไก หรือไมก็รีบเผาตามศาสนาพุทธ นายโสพิศ ขุนชิต ซึ่งเป็นบุตรเขยของผู้เสียชีวิต กล่าวอ้างว่า ลูกๆ ต้องการให้ตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศลศพ และรอญาติชาวป่ามันนิหรือเงาะป่าซาไกจากฝั่งจังหวัดสตูล ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่มีเงินทำพิธีณาปนกิจศพ ที่จะถึงในวันที่ 7 พฤษภาคม นี้ ณ.วัดนาวง อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง สำหรับการตั้งศพ นายวี ศรีธารโต มาเป็นเวลาหลายวันนั้นตนเองขอปฏิเสธไม่ใช่เป็นการหวังเงินทำบุญจากผู้คนทั่วไปและนักท่องเที่ยวที่แวะศูนย์จำหน่ายของฝากและศาลทวดหลักเขต แต่อย่างใด