กระบี่ - สาวใหญ่ร้องตำรวจ หลังถูกชายแปลกหน้าปีนห้องน้ำยื่นโทรศัพท์มือถือผ่านช่องระบายอากาศถ่ายคลิปขณะอาบน้ำ ในห้องเช่าย่านอ่าวนาง หวั่นไม่ปลอดภัย
วันนี้ (18 เม.ย) น.ส.ปริณดา อาษาภา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เดินทางไปที่ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังถูกชายโรคจิตแอบใช้มือถือถ่ายคลิปขณะอาบน้ำภายในห้องน้ำของบ้านพัก
น.ส.ปริณดา ให้การว่า ตนเองอาศัยอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่อ่าวนางซอย 11 ต.อ่าวนาง เป็นอาคารชั้นเดียวปลูกติดกันหลายห้อง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 22.15 น ของวันที่ 17 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองอาบน้ำอยู่ภายในห้องน้ำ ได้สังเกตเห็นมีผู้ชายยืนแอบอยู่ด้านหลังของห้องน้ำ พร้อมกับยื่นมือเข้ามาทางรูระบายอากาศโดยในมือกำโทรศัพท์ไว้แน่น ตนจึงได้ร้องเอะอะโวยวาย คนร้ายตกใจได้รีบดึงมือกลับ และวิ่งหนี ตนจึงรีบออกจากห้องน้ำหยิบไฟฉายวิ่งตามไปทางด้านข้างของบ้านซึ่งทะลุออกสู่ถนนสายหลัก แต่ไม่ทัน
น.ส.ปริณดา ให้การเพิ่มเติมว่า รู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้ว่าอยู่ในบ้านพักยังมีคนโรคจิตแอบเข้ามาถ่ายรูป ไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ จึงได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อจุดที่คนร้ายวิ่งผ่าน เพื่อหาเบาะแสเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
วันนี้ (18 เม.ย) น.ส.ปริณดา อาษาภา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เดินทางไปที่ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังถูกชายโรคจิตแอบใช้มือถือถ่ายคลิปขณะอาบน้ำภายในห้องน้ำของบ้านพัก
น.ส.ปริณดา ให้การว่า ตนเองอาศัยอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่อ่าวนางซอย 11 ต.อ่าวนาง เป็นอาคารชั้นเดียวปลูกติดกันหลายห้อง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 22.15 น ของวันที่ 17 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองอาบน้ำอยู่ภายในห้องน้ำ ได้สังเกตเห็นมีผู้ชายยืนแอบอยู่ด้านหลังของห้องน้ำ พร้อมกับยื่นมือเข้ามาทางรูระบายอากาศโดยในมือกำโทรศัพท์ไว้แน่น ตนจึงได้ร้องเอะอะโวยวาย คนร้ายตกใจได้รีบดึงมือกลับ และวิ่งหนี ตนจึงรีบออกจากห้องน้ำหยิบไฟฉายวิ่งตามไปทางด้านข้างของบ้านซึ่งทะลุออกสู่ถนนสายหลัก แต่ไม่ทัน
น.ส.ปริณดา ให้การเพิ่มเติมว่า รู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้ว่าอยู่ในบ้านพักยังมีคนโรคจิตแอบเข้ามาถ่ายรูป ไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ จึงได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อจุดที่คนร้ายวิ่งผ่าน เพื่อหาเบาะแสเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว