ยะลา - ที่ด่านพรมแดนเบตง ยะลา คึกคัก นักท่องเที่ยวมาเลย์ สิงคโปร์แน่นรับเทศกาลสงกรานต์ ยอดจองโรงแรงเต็ม นักท่องเที่ยวเผยมั่นใจความปลอดภัย
วันนี้ (12 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้เริ่มคึกคัก และเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งมาเลเซีย และสิงคโปร์ที่ทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ อ.เบตง และจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ ในภาคใต้
โดยส่วนใหญ่จะเดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ด้วยรถบัส รวมถึงรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองพรมแดนเบตง ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำช่องตรวจหนังสือเดินทางเต็มทุกช่อง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ระบายนักท่องเที่ยวให้เร็วขึ้น เนื่องจากต้องต่อแถวยาวเหยียด และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์
ซึ่งในส่วนของ อ.เบตง จัดขึ้นที่บริเวณหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง โดยช่วงเช้าทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ สรงน้ำพระ ขบวนการแห่เบตงมหาสงกรานต์ การแสดงวัฒนธรรมวิถีชาวไทยพุทธผ่านการแสดงวัฒนธรรม การแสดงดนตรีทางวัฒนธรรมสร้างสันติสุขชายแดนใต้ การประกวดนางสงกรานต์ งามอย่างไทย และกิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ตามแบบวิถีไทย โดยขณะนี้จำนวนห้องพักของโรงแรมต่างๆ ใน อ.เบตง ที่มีอยู่กว่า 5,000 ห้อง ถูกจองเต็มทั้งหมด
ขณะที่ Mr.Andalagan ali visvamonana (มิสเตอร์ อันบา ลาแกน อารี วิดวามูนัน) นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย กล่าวว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่กลัวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น มีความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งในทุกปีจะเดินทางเข้ามากับครอบครัวเพื่อเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ของไทยซึ่งมีความสนุกสนานมาก และจะเข้ามาเที่ยวทุกปี
ด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.เบตง กล่าวว่า ในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นี้ เพื่อเป็นการป้องกัน และเฝ้าระวังโดยไม่ประมาท ได้กำชับในการเน้นตรวจสอบยานพาหนะ และบุคคลเป้าหมายในคดีความมั่นคง และตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอยบนเส้นทางที่จะเข้ามาสู่ตัวเมืองเบตง ในถนนสายหลัก และสายรอง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่เขตเมืองเบตง
โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น และขอความร่วมมือประชาชน และสถานประกอบการในพื้นที่ช่วยกันตรวจสอบหน้าบ้าน ภายในร้านค้าว่ามีวัตถุแปลกปลอมซุกซ่อนอยู่หรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน คนร้ายได้ประกอบวัตถุระเบิดในหลากหลายรูปแบบ เช่น กระเป๋าสตางค์ กระป๋องเครื่องดื่ม นาฬิกาดิจิทัล
โดยไปวางไว้ใกล้วัตถุไวไฟ หรือวัตถุที่ติดไฟง่าย จึงขอให้ช่วยกันตรวจตราสอดส่องอย่างละเอียด หากพบเห็นต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที เพื่อป้องกันการก่อเหตุของคนร้ายได้