xs
xsm
sm
md
lg

ชกหมัดตรง : ยังไม่ทันสงกรานต์ ปี่กลองฉลองดังลั่น จ.สงขลา / เปิดตัวแล้ว “พี่หลวงสาคร” ว่าที่นายกฯ นครหาดใหญ่ / แต่ไม่กระหึ่มเท่าแกรนด์โอเพนนิ่งเขต 5 สงขลาที่ “พี่วร” ขนอดีต ส.ส.หนุน “นายกฯชาย” ชนกับ “ลูกนายกฯนิพนธ์” แย่งเสื้อคลุม “ปชป.” กันมันหยด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากซ้ายไปขวา พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี, นิพนธ์ บุญญามณี, สรรเพช บุญญามณี, เดชอิศม์ ขาวทอง
 
 
โดย...ไชยยงค์  มณีพิลึก 
 
 
 
แม้จะยังไม่มีใครเชื่อและแน่ใจว่าปี 2562 จะมีการเลือกตั้งตาม “โรดแมป” ที่ออกจากเรียวปากของ “ลูงตู่-พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.จริงหรือ?!
 
แต่เมื่อปี่กลองการเมืองเริ่มดังก้องขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการเปิดให้มีการจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่ และให้สมาชิกพรรคการเมืองเก่าแสดงตัวยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคในหลายพื้นที่ ความคึกคักก็ทวีความร้อนแรงเพิ่มขึ้นแล้เพิ่มขึ้น ทั้งจากผู้ที่เป็นอดีต ส.ส.และหัวคะแนน รวมทั้งผู้ที่เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.หน้าใหม่ๆ
 
สำหรับพื้นที่ จ.สงขลา มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต้องจับตาอยู่ 2 เวที กล่าวคือ เวทีแรกการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ก็เป็นท้องถิ่นระดับใหญ่มาก นั่นคือ สนามเลือกตั้งของ “เทศบาลนครหาดใหญ่” อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีการ “วางตัว คนที่จะนั่งตำแหน่ง “นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่” คนใหม่ไว้ตั้งแต่ไก่โห่แล้ว
 
การเปิดตัว “ว่าที่นายกฯ นครหาดใหญ่คนใหม่” เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือ “พี่หลวง” ของใครต่อใครมากมายหลายคนและหลายกลุ่ม ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หรือคนอื่นไกล นั่นก็คือ “พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” ผบช.ตร.ท่องเที่ยว อดีตเคยนั่งเป็น ผบช.ภ.9 ผู้มีพื้นเพเป็นคน ต.คนคูเต่า อ.หาดใหญ่ นั่นเอง
 
ส่วนอีกเวทีถือเป็นเวทีใหญ่ระดับชาติ นั่นคือ “สนามเลือกตั้งเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา” ซึ่งอดีต ส.ส. เขต 5 จ.สงขลา ได้ว่างลง เนื่องจากการถึงแก่กรรมของ นายประพร เอกอุรุ อดีต ส.ส.ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
 
ทั้งนี้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ตามโรดแมปจะมีขึ้นในปี 2562 (ย้ำอีกครั้งว่า ถ้ามี) สำหรับพื้นที่เขต 5 จ.สงขลา ได้มีผู้เสนอตัวลงสมัครสมัครในนามพรรค ปชป.แล้วอย่างน้อย 2 คน
 
คนแรกเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของชาวสงขลาแน่นอน นั่นคือ “นายกฯชาย” หรือ “นายเดชอิศม์ ขาวทอง” อดีตนายก อบจ.สงขลา
 
คนที่ 2 คือ “นายสรรเพชร บุญญามณี” โดยชื่อชั้นอาจจะไม่คุ้นเคยกับคอการเมืองสนามสงขลามากนัก แต่เมื่อเห็น “นามสกุล” คอการเมืองในพื้นที่ย่อมคุ้นเคยแน่นอน เพราะเขาคือ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสายเลือดของ “นายนิพนธ์ บุญญามณี” อดีต ส.ส.ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม และปัจจุบันนั่งตำแหน่ง “นายก อบจ.สงขลา” อยู่มานานหลายปี ซึ่งเขานี่แหละที่ถืองบประมาณเพื่อการบริหาร จ.สงขลา ปีละกว่า 2,000 ล้าน นั่นเอง
 
ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ นี้เอง ได้มีงานใหญ่ใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยมีผู้คน หลากหลายวงการ โดยเฉพาะบรรดาแก่นแกนในพื้นที่เลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 สงขลา อันประกอบด้วย อ.รัตภูมิ อ.ควนเนียง อ.บางกล่ำ และ อ.สิงหนครบางส่วน รวมแล้วกว่า 30,000 คนที่ไปปรากฏตัวในงานวันนั้น ซึ่งถูกจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าเรื่อยไปจนข้ามวันใหม่สู่วันที่ 10  เม.ย.เลยด้วย
 
เนื่องเพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของ “นายกฯชาย” ลูกผู้ชายตัวจริงที่เป็นที่รู้จักของชาวสงขลา ซึ่งเจ้าตัวได้จัด “งานวันมุติตาจิต” ที่หน้าสำนักงานเทศบาล ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ ในช่วงกลางวัน แล้วจากนั้นแปรเป็น “งานฉลองวันคล้ายวันเกิด” ซึ่งจริงๆ เป็นที่รับรู้กันว่านั่นคือ “มหกรรมเปิดตัว” เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่า เขาได้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 ภายใต้เสื้อคลุม ปชป.นั่นเอง
 
งานนี้มี “มวยรุ่นใหญ่” ผู้เป็นถึงอดีต “รมช.” ของพรรค ปชป. และอดีตแกนนำ “นกหวีด” ค่าย “ลุงกำนัน-นายสุสุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นหัวขบวนนำอดีต ส.ส.ปชป. 6 คนขึ้นเวทีประกาศเสียงดังฟังชัดว่า พวกเขาให้การสนับสนุน “นายกฯชายให้ได้ใส่ “เสื้อคลุม ปชป.” ลงสมัคร ส.ส.เขต 5 จ.สงขลา แทนนายประพร เอกอุรุ
 
ในขณะที่ “นายกฯชาย เองก็ประกาศชัดเพื่อแสดงถึงความในใจว่า ต้องการที่จะเป็น ส.ส.ของ “พรรค ปชป.” มานานแล้ว แต่ที่ไม่มีโอกาสเพราะมีปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้ออำนวย เมื่อโอกาสมาถึงเพราะ ส.ส.เขต 5 สงขลาว่างลง และเพราะรัฐธรรมนูญใหม่กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. แทนที่จะปล่อยให้กรรมการพรรคการเมืองเป็นผู้เลือกสรรเท่านั้น หรือที่เรียกว่า “ไพรมารีโหวด นั่นเอง
 
หากมองให้ลึกและตรงประเด็นจะพบว่า “สนามเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 สงขลา” นั่นเป็นพื้นที่ที่เป็น “แผ่นดินเกิด” ของ “นายกฯชาย” นั่นเอง และด้วยความเป็น “นายกฯชาย” อันมีประวัติความเป็นมาด้วยประการทั้งปวงนั้น คนในวงการเมืองจึงเชื่อว่า “คะแนนไพรมารีโหวต” ของค่ายพระแม่ธรณีมวยผมจะออกมาในลักษณะที่ “นายกฯชาย” ต้องมีคะแนนนำ “ลูกชายนายหัวนิพนธ์” อย่างแน่นอน และนั่นย่อมรวมถึงคนอื่นๆ ที่อาจจะมีผู้เสนอตัวเพิ่มเข้ามาขาดลอย
 
สิ่งนี้สังเกตได้จากภาพที่ปรากฏชัดในคืนวันจัดงานครานั้น ซึ่งมีคนจำนวนมากดื่มเพื่อแสดงความยินดี หรือบางคนถึงขึ้นเฉลิมฉลองล่วงหน้าให้กับ “ว่าที่ ส.ส.เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์” ด้วยแววตาและท่าทางอันสุดแสนจะเชื่อมั่น
 
แต่ก็นั่นแหละ ในสนามการเมืองก็ไม่ต่างอะไรกับลูกบิลเลียดบนโต๊ะ ซึ่งผู้เล่นล้วนเปรียบได้กับ “ลูกกลมๆ” ที่สามารถกลิ้งไปได้รอบตัว แม้ใครๆ ก็จินตนาการได้ว่า “นายกฯชาย” น่าจะลอยลำเข้าสภาฯ ได้แน่ๆ แต่ก็ยังฟันธงไม่ได้ว่าทุกอย่างจะชัวร์อย่างที่ “พี่วร” ประกาศก้องด้วยน้ำเสียงเข้มบนเวทีวันนั้น
 
เพราะต้องติดตามต่อไปว่า เมื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี ตัดสินใจส่ง “หัวแก้วหัวแหวนอย่างนายสรรเพชร บุญญามณี ที่หลายคนอาจจะบอกว่าน่าจะยังเป็นได้แค่ “มวยก่อนเวลา” ที่จะลงสนามเลือกตั้งวัดชั้นกับคนที่เคยเป็น “มวยคู่” มาตลอดอย่างนายกฯชาย โดยอาจจะต้องยอมแม้แต่การ “สะบั้นไมตรี” ที่มีต่อกันมาก่อนด้วย นั่นย่อมแสดงว่าในมือของนายกฯนิพนธ์ก็ย่อมต้องมี “ไพ่ที่ไม่ธรรมดา” อยู่ในมือเช่นกัน
 
เป็นที่รู้กันว่าสำหรับบารมีทางการเมืองในพื้นที่ จ.สงขลา หรือแม้แต่ในค่ายพระแม่ธรณีมวยผมก็ตาม “นายกฯนิพนธ์” นั้นก็ต้องนับเป็น “หนึ่งในตองอูที่สามารถส่งเสียงได้ดังพอสมควร โดยเฉพาะความที่เป็นคนที่ใกล้ชิดกับทั้ง “นายหัวชวนและ “หัวหน้าอภิสิทธิ์” อย่างเป็นที่ประจักษ์
 
ดังนั้นสำหรับนายกฯชายแล้ว “ไพรมารีโหวต” คือด่านแรก ส่วนด่านที่ 2 คือ “ความเห็นของคณะกรรมการบริหารพรรค” ซึ่งกองเชียร์ฝั่งนายกฯชายก็ได้แต่หวังว่า พรรคเก่าแก่พรรคนี้จะต้อง “เคารพเสียง” ของคนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ในการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เลือกผู้ที่มีคะแนนนำ ถึงเวลานั้นคณะกรรมการพรรคก็จะต้องมีคำตอบให้กับสังคมจนเป็นที่พอใจและสามารถยุติปัญหาต่างๆ ได้
 
ขณะที่ลึกๆ แล้วเชื่อว่าชาวสงขลาต้องการที่จะได้ “นายกฯชาย” เป็น “ส.ส.เขต 5 สงขลา” ในสีเสื้อของ “พรรค ประชาธิปัตย์” และในขณะเดียวกันก็ต้องการได้ “นายกฯนิพนธ์” ให้นั่งเป็นนายก อบจ.สงขลาต่อไป ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะเกิด “ความสามัคคีกลมเกลียว” ทั้งในทาง “การเมือง” และในเรื่องของ “พรรคพวก”
 
ทั้งนี้ทั้งนั้นหนทางดังกล่าวนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ ผู้ที่จะให้คำตอบย่อมเป็น “นายกฯนิพนธ์” อย่างเป็นด้านหลักนั่นเอง
 
แต่นั่นแหละสุดท้ายแล้วบนถนนทางการเมืองมีภาษิตสำคัญที่รู้กันตลอดมาว่า “ไม่มีมิตรแท้และ “ไม่มีศัตรูถาวร ซึ่งนักการเมืองทุกคน รวมทั้งกองเชียร์ก็ต้อง “เตรียมใจ” และ “ทำใจ ไว้ตั้งแต่บัดนี้
 
และที่สำคัญที่สุดคือ กว่าจะถึงปี 2562 ที่เชื่อกันว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ตามโรดแมปจากเรียวปาก “ลุงตู่” นับว่ายังเป็นเวลาอีกยาวไกล ซึ่งจะเกิดอะไรก็เกิดขึ้นได้อีกมากมายสำหรับ “การเมืองภายใต้ทอปบู๊ต นั่นเอง
 
สุดท้ายต้องขอยืมคำพูดของ “โกวเล้ง” ปรมาจารย์นวนิยายกำลังภายมากล่าวสรุปไว้ ณ ที่นี้ด้วยข้อความที่ว่า “วิกาลยาวนาน ฝันยุ่งเหยิง”
 


กำลังโหลดความคิดเห็น