ตรัง - มาอีกแล้ว “ครูแว่นดำ” เมืองตรัง ทำเอ็มวีเพลงใหม่ “บุพเพอาละวาด” สะท้อนปัญหาทุจริต โดยเฉพาะกับคนจน คนยากไร้ และคนไร้ที่พึ่ง ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วแล้ว หวังเตือนเยาวชนอย่าให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง
วันนี้ (30 มี.ค.) นายชาตรี บุญมี หรือครูแว่นดำ ครูภาษาไทยผู้พิการทางสายตา แห่งโรงเรียนเทศบาลบ้านคลองภาษี อ.กันตัง จ.ตรัง ล่าสุด ได้ออกเอ็มวีที่ชื่อว่า “บุพเพอาละวาด” โดยใช้ทำนองเพลงบุพเพสันนิวาส ของศิลปิน ไอซ์ ศรัณยู ซึ่งกำลังโด่งดังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ เพื่อสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น และอยากเตือนสติทุกคนในสังคมว่า การทุจริตนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ เป็นเรื่องน่าละอาย และทำให้ประเทศชาติไม่เจริญก้าวหน้า
ยิ่งเป็นการทุจริตกับคนจน ฉ้อโกงกับคนยากไร้ หรือเอาเปรียบคนไร้ที่พึ่ง ยิ่งทำให้สังคมไทยเลวร้ายลงอย่างน่าใจหาย นอกจากนั้น ยังอยากให้การทุจริตในครั้งนี้เป็นกรณีศึกษาให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนไทยได้เรียนรู้ และจดจำเอาไว้ว่า ชั่วดีตีตราตน อย่าฉ้อโกงคนยากไร้ คนทำผิดย่อมได้รับผลจากการกระทำนั้นไม่ช้าก็เร็ว
ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการข้าราชการหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตเงินอุดหนุนสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่พึ่งของศูนย์คนไร้ที่พึ่งฯ ที่มีการพบเบาะแสการทุจริตเป็นรายวัน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทุกภาคของประเทศ จนสร้างความตกตะลึงแก่สังคมเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา แม้จะมีข่าวการทุจริตในแวดวงข้าราชการมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงหน่วยงานในพื้นที่หนึ่งๆ เท่านั้น มิได้แพร่ระบาดไปเกือบทั่วประเทศเช่นนี้ แถมเงินที่ทุจริตนั้นก็เป็นเงินสงเคราะห์คนจน คนพิการ คนยากไร้ รวมไปถึงผู้ป่วยโรคเอดส์ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะคนเหล่านี้เป็นผู้ที่ได้รับความยากลำบากในการใช้ชีวิตอยู่แล้ว กลับมาต้องถูกโกงเงินในครั้งนี้อีก จึงเป็นเรื่องน่าเห็นใจ
นายชาตรี บุญมี ครูภาษาไทยผู้พิการทางสายตา แห่งโรงเรียนเทศบาลบ้านคลองภาษี กล่าวว่า แม้จะมีเพื่อนครูที่ห่วงใยเตือนมิให้เผยแพร่เอ็มวีดังกล่าว เพราะกลัวว่าตนจะได้รับอันตราย เนื่องจากการทุจริตครั้งนี้เกี่ยวข้องต่อคนหลายฝ่าย หลายหน่วยงาน แต่ตนเชื่อว่าทุกท่านที่ฟังเพลงนี้แล้วจะเข้าใจว่า จุดประสงค์ของเพลงมิได้โจมตีผู้ใด นอกเสียจากเป็นการพูดถึงความถูกต้อง และสิ่งที่ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว พร้อมทั้งไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในสังคมไทย เพราะสงสารผู้ยากไร้ และคนจนทุกคนเท่านั้น