ชุมพร - เริ่มขยับแล้ว อดีตแกนนำ กปปส.ชุมพร นักการเมืองท้องถิ่นเป็นหัวขบวนนำชาวสวนปาล์มยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ ถึงนายกรัฐมนตรี เนื่องจากราคาปาล์มตกต่ำ เรียกร้องกิโลกรัมละ 6-7 บาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (27 มี.ค.) เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดชุมพรกว่า 150 คน นำโดย นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายก อบต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ และเป็นอดีตแกนนำ กปปส.พื้นที่ จ.ชุมพร พร้อมด้วยนายก อบต. ส.อบจ. ส.อบต.ในหลายท้องที่เข้าร่วมเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร จากราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ซึ่งปัจจุบัน ลานเทรับซื้อปาล์มทะลายราคากิโลกรัมละ 2.60 บาท ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันได้รับความเดือดร้อน จึงรวมตัวกันมายื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัด โดยมี นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นผู้รับมอบเพื่อจะนำเสนอหนังสือดังกล่าวถึงรัฐบาลต่อไป พร้อมกับได้พูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน
นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ ตัวแทนเครือข่ายเกษตรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน จ.ชุมพร เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดชุมพร มากกว่า 45,000 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 848,945 ไร่ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ปัจจุบันจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ณ จุดรวบรวม (ลานเท) ได้รับซื้อปาล์มน้ำมัน (ปาล์มทะลาย) ในราคากิโลกรัมละ 2.60 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 3.20 บาท ในขณะที่สินค้าซึ่งเป็นต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา และรวมสินค้าอุปโภคบริโภคได้มีการปรับราคาสูงขึ้น รายได้ที่ได้รับจากการปลูกปาล์มซึ่งเป็นอาชีพหลักไม่พอต่อค่าใช้จ่าย ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างมาก
นายกฤษฏ์ กล่าวต่อว่า จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยให้มีการประกันราคาปาล์มน้ำมัน (ทะลาย) ในช่วงระยะสั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนที่กิโลกรัมละ 4 บาท จึงจะบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีพปัจจุบันนี้ได้ และในระยะยาว ต้องการให้รัฐบาลได้ประกันราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่กิโลกรัมละ 6-7 บาท โดยออกกฎหมายให้มีการควบคุมทุกขั้นตอน ทั้งในขั้นตอนการผลิต การจำหน่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งเพื่อการบริโภค และการผลิตเป็นพลังงานทดแทน โดยขอให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน