ยะลา-นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวมาเลเซีย และอินโดนีเซีย พาครอบครัวคลายร้อนที่ล่องแก่งอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา กันอย่างคึกคัก สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านทดแทนรายได้หลักจากการกรีดยาง
เมื่อนี้ (24 มี.ค). ที่ล่องแก่งในพื้นที่ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวมาเลเซีย ที่ชื่นชอบการผจญภัยทางน้ำ ต่างเดินทางมาพายเรือล่องแก่งอัยเยอร์เวงในช่วงอากาศร้อนกันอย่างคึกคัก ด้วยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้การล่องแก่งเป็นไปอย่างสนุกสนาน ยิ่งในช่วงนี้ น้ำในแม่น้ำปัตตานีมีความใสสะอาด และน้ำไหลเชี่ยวกราก เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักในความท้าทาย ชอบความสนุกตื่นเต้น
นายอารีย์ หนูชูสุข ปลัด อบต.อัยเยอร์เวง กล่าวว่า ล่องแก่งอัยเยอร์เวง ถือเป็นอีกเส้นทางการท่องเที่ยว ซึ่งล่องแก่งอัยเยอร์เวง มีความท้าทายกับสายน้ำที่เชียวกราก เลยทีเดียว เพราะแม่น้ำปัตตานีสายนี้มีความสมบูรณ์มาอย่างยาวนาน จึงเห็นหินผุดเป็นแก่งเล็ก แก่งน้อย มีความต่างระดับสลับกันไปตลอดสายน้ำ บางช่วงสามารถล่องผ่านช่องแคบ ระยะทาง 200 เมตร ทำให้การล่องแก่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ทุกนาทีจึงมีความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ สนุกครบรส ความสุขนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย ชื่นชอบ ต่างเดินทางกันมาผจญภัยล่องแก่งกันแบบครอบครัว กลุ่มคณะ กันอย่างสนุกสนาน
ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีอาชีพกรีดยางพารา เป็นหลัก และยังสามารถทดแทนรายได้หลักจากการกรีดยางที่ราคายางลดลงต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงพอในการจุนเจือครอบครัว ซึ่งทาง องค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง ได้นำทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่มาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม และคุ้มค่าอย่างยั่งยืน
เมื่อนี้ (24 มี.ค). ที่ล่องแก่งในพื้นที่ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวมาเลเซีย ที่ชื่นชอบการผจญภัยทางน้ำ ต่างเดินทางมาพายเรือล่องแก่งอัยเยอร์เวงในช่วงอากาศร้อนกันอย่างคึกคัก ด้วยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้การล่องแก่งเป็นไปอย่างสนุกสนาน ยิ่งในช่วงนี้ น้ำในแม่น้ำปัตตานีมีความใสสะอาด และน้ำไหลเชี่ยวกราก เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักในความท้าทาย ชอบความสนุกตื่นเต้น
นายอารีย์ หนูชูสุข ปลัด อบต.อัยเยอร์เวง กล่าวว่า ล่องแก่งอัยเยอร์เวง ถือเป็นอีกเส้นทางการท่องเที่ยว ซึ่งล่องแก่งอัยเยอร์เวง มีความท้าทายกับสายน้ำที่เชียวกราก เลยทีเดียว เพราะแม่น้ำปัตตานีสายนี้มีความสมบูรณ์มาอย่างยาวนาน จึงเห็นหินผุดเป็นแก่งเล็ก แก่งน้อย มีความต่างระดับสลับกันไปตลอดสายน้ำ บางช่วงสามารถล่องผ่านช่องแคบ ระยะทาง 200 เมตร ทำให้การล่องแก่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ทุกนาทีจึงมีความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ สนุกครบรส ความสุขนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย ชื่นชอบ ต่างเดินทางกันมาผจญภัยล่องแก่งกันแบบครอบครัว กลุ่มคณะ กันอย่างสนุกสนาน
ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีอาชีพกรีดยางพารา เป็นหลัก และยังสามารถทดแทนรายได้หลักจากการกรีดยางที่ราคายางลดลงต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงพอในการจุนเจือครอบครัว ซึ่งทาง องค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง ได้นำทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่มาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม และคุ้มค่าอย่างยั่งยืน
