สุราษฎร์ธานี - ชาวบ้านหัวสวน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี กว่า 600 ครัวเรือน สุดระทมหนัก รอใช้น้ำประปามายาวนานแต่ยังไร้วาสนาทั้งที่หมู่บ้านอยู่ตรงข้ามสนามบิน รวมตัวจี้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ แต่อนาคตยังมืดมน เหตุประปาภูมิภาคเขต 4 เพิ่งยื่นเข้าแผนปีงบประมาณ 2562 แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะได้รับการพิจารณา
วันนี้ (19 มี.ค) ที่ศาลาประชาคม หมู่ที่ 3 บ้านหัวสวน ตำบลหัวเตย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจเร ขวัญเกิด นายอำเภอพุนพิน นายสิงหชัย อินทพิชัย ผู้อำนวยการกองแผนและวิชาการ การประปาส่วนภูมิภาคเขต 4 พร้อมด้วย นายภิญญา ช่วยปลอด อดีต ส.ว.และ รมว.ช่วยพาณิชย์ ได้พบปะตัวแทนชาวบ้านกว่า 100 คน เพื่อรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ที่รวมตัวกันเรียกร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการไม่มีน้ำสะอาดใช้
โดย นายพิพนธ์ พึ่งชาติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 กล่าวว่า ในพื้นที่หมู่ที่ 3 มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวน 646 ครัวเรือน ประชากรจำนวนกว่า 1,000 คน ทุกหลังคาเรือนต้องขุดเจาะบ่อบาดาลใช้มาหลายชั่วอายุคน น้ำที่ได้จากใต้ดินก็ประสบปัญหาน้ำเป็นสนิมแดง ไม่สามารถนำมาชักเสื้อผ้าขาวได้ อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องน้ำก็ถูกสนิมแดงจับจนใช้งานไม่ได้หากปล่อยไว้หลายวัน ทางผู้นำชุมชนได้เสนอเรื่องร้องขอไปทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด เรื่องไม่มีความคืบหน้าจนชาวบ้านต่างหมดหวัง ล่าสุด ได้ร้องเรียนต่อ นายภิญญา ช่วยปลอด ขอให้ประสานหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ
ด้าน นายสิงหชัย อินทพิชัย ผู้อำนวยการกองแผนและวิชาการ การประปาส่วนภูมิภาคเขต 4 ได้ชี้แจงต่อชาวบ้าน ว่า ขณะนี้ทางการประปาเขตได้ดำเนินการนำแผนแก้ไขปัญหาของชาวบ้านในการขอขยายเขตเข้าสู่งบประมาณปี 2562 ที่จะพิจารณาในเดือนกันยายนนี้ แต่ยังรับปากไม่ได้ว่าจะได้งบประมาณ หรือส่วนแผนระยะยาวต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี จึงจะสามารถเดินท่อส่งน้ำให้แก่ประชาชนใช้ได้ แต่ในเบื้องต้น จะประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเตย เพื่อหางบประมาณช่วยเหลือในเบื้องต้น
ในขณะที่ นายจเร ขวัญเกิด นายอำเภอพุนพิน กล่าวว่า ชาวบ้านเคยร้องเรียนต่อสำนักนายก ในเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของการใช้น้ำ แต่ติดขัดอยู่ที่ทางท้องถิ่นไม่มีงบประมาณในการดำเนินการติดตั้งประปาหมู่บ้าน ซึ่งทางตนจะได้นำปัญหาดังกล่าวนำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
ด้าน นายภิญญา ช่วยปลอด ได้กล่าวยืนยันว่า ขอให้ชาวบ้านล่ารายชื่อผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน ตนพร้อมที่จะนำเสนอต่ออธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านขุดบ่อบาดาลในระยะความลึกประมาณ 10 เมตรแล้ว ไปเจอน้ำในชั้นหินน้ำที่สูบขึ้นมา จึงเป็นสนิมแดงไม่สามารนำมาอุปโภคบริโภคได้
นางนิภา เผือกภูมิ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.3 ต.หัวเตย กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหนักจากปัญหาน้ำใช้มาหลายปีจนถึงปัจจุบัน ทั้งที่บ้านหัวสวนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าสนามบินสุราษฎร์ธานี ไม่มีน้ำประปาจากประปาภูมิภาค หรือประปาหมู่บ้าน จึงวอนทุกฝ่ายเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ชาวบ้านจะหมดหวังจากทางราชการ