ชุมพร - ตะลึง ! ลูกจ้างกรีดยาวชาวอีสาน เจอลูกแมวลายหินอ่อน 2 ตัว เป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ถูกขึ้นบัญชี “ไซเตส” รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ไปรับอนุบาล ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้( 16 มี.ค.) นายพรชัย สิทธิเกษตร เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าชุดสายตรวจคุ้มครองสัตว์ป่าประจำ จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ไปรับลูกแมวป่า 2 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย จาก นายคำผง มณีจันทร์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 5 ตำบลพะเยาว์ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีษะเกษ และ นายนาย ลาป่าน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 19 ตำบลนานากอก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ทั้งสองคนเป็นชาวอีสานมารับจ้างกรีดยางพารา อยู่ในหมู่บ้านนาขุ่ย หมู่ที่ 13 ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร นำลูกแมวป่าทั้ง 2 ตัว มาอนุบาลไว้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากรมหลวงชุมพรด้านทิศใต้
นายพรชัย สิทธิเกษตร เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าชุดสายตรวจคุ้มครองสัตว์ป่าประจำ จ.ชุมพร กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเบื้องต้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นแมวลายหินอ่อน หรือ แมวดาว โดยเป็นเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ 2-3 เดือน เกิดครอกเดียวกัน ซึ่งแมวป่าทั้งสองชนิดนี้มีสีและลายที่มีความใกล้เคียงกันมาก จึงต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตามทั้งแมวลายหินอ่อน แล แมวดาว สัตว์ปา ทั้ง 2 ชนิด นี้ถือว่าเป็นสัตว์อนุรักษ์คุ้มครองตามกฎหมาย โดยเฉพาะแมวลายหินอ่อนเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ หายาก และ เป็น 1 ใน 15 ชนิด ที่ขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าอนุรักษ์คุ้มครองใกล้สูญพันธุ์ ห้ามบุคคลใดมีไว้ในความครอบครองอย่าเด็ดขาด และยังเป็นสัตว์ที่อยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า “ไซเตส” อีกด้วย
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณ นายคำผง และ นายนาย ลูกจ้างกรีดยางพาราทั้ง 2 คน ที่มีจิตใจเป็นนักอนุรักษ์ เพื่อพบเห็นแล้วไม่เอาไปเลี้ยง หรือนำไปขาย หรือฆ่าทำเป็นอาหาร หลังจากทั้ง 2 คนออกไปกรีดยางพาราเมือช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาและพบเห็นสุนัขกำลังจะกัดลูกแมวป่าทั้ง 2 ตัว จึงเข้าไปช่วยและเห็นว่าสัตว์ทั้ง 2 ตัว ไม่น่าจะเป็นแมวบ้านธรรมดาเพราะมีลักษณะสีสันแตกต่างกัน จึงนำไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คและแจ้งผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และไปรับนำมาอนุบาลไว้
เบื้องต้นสันนิษฐาน ว่า แม่ของแมวป่าทั้ง 2 ตัว อาจจะถูกฆ่าตายไปแล้วหรือมันอาจจะพลัดหลงมาแล้วเจอสุนัขไล่กัด ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด หลังจากอนุบาลไว้ชั่วคราวแล้ว จากนั้นจะนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า จ.พังงา หรือที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี ต่อไป.
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้( 16 มี.ค.) นายพรชัย สิทธิเกษตร เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าชุดสายตรวจคุ้มครองสัตว์ป่าประจำ จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ไปรับลูกแมวป่า 2 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย จาก นายคำผง มณีจันทร์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 5 ตำบลพะเยาว์ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีษะเกษ และ นายนาย ลาป่าน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 19 ตำบลนานากอก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ทั้งสองคนเป็นชาวอีสานมารับจ้างกรีดยางพารา อยู่ในหมู่บ้านนาขุ่ย หมู่ที่ 13 ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร นำลูกแมวป่าทั้ง 2 ตัว มาอนุบาลไว้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากรมหลวงชุมพรด้านทิศใต้
นายพรชัย สิทธิเกษตร เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าชุดสายตรวจคุ้มครองสัตว์ป่าประจำ จ.ชุมพร กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเบื้องต้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นแมวลายหินอ่อน หรือ แมวดาว โดยเป็นเพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ 2-3 เดือน เกิดครอกเดียวกัน ซึ่งแมวป่าทั้งสองชนิดนี้มีสีและลายที่มีความใกล้เคียงกันมาก จึงต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตามทั้งแมวลายหินอ่อน แล แมวดาว สัตว์ปา ทั้ง 2 ชนิด นี้ถือว่าเป็นสัตว์อนุรักษ์คุ้มครองตามกฎหมาย โดยเฉพาะแมวลายหินอ่อนเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ หายาก และ เป็น 1 ใน 15 ชนิด ที่ขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าอนุรักษ์คุ้มครองใกล้สูญพันธุ์ ห้ามบุคคลใดมีไว้ในความครอบครองอย่าเด็ดขาด และยังเป็นสัตว์ที่อยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า “ไซเตส” อีกด้วย
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณ นายคำผง และ นายนาย ลูกจ้างกรีดยางพาราทั้ง 2 คน ที่มีจิตใจเป็นนักอนุรักษ์ เพื่อพบเห็นแล้วไม่เอาไปเลี้ยง หรือนำไปขาย หรือฆ่าทำเป็นอาหาร หลังจากทั้ง 2 คนออกไปกรีดยางพาราเมือช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาและพบเห็นสุนัขกำลังจะกัดลูกแมวป่าทั้ง 2 ตัว จึงเข้าไปช่วยและเห็นว่าสัตว์ทั้ง 2 ตัว ไม่น่าจะเป็นแมวบ้านธรรมดาเพราะมีลักษณะสีสันแตกต่างกัน จึงนำไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คและแจ้งผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และไปรับนำมาอนุบาลไว้
เบื้องต้นสันนิษฐาน ว่า แม่ของแมวป่าทั้ง 2 ตัว อาจจะถูกฆ่าตายไปแล้วหรือมันอาจจะพลัดหลงมาแล้วเจอสุนัขไล่กัด ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด หลังจากอนุบาลไว้ชั่วคราวแล้ว จากนั้นจะนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า จ.พังงา หรือที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี ต่อไป.