สตูล - โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดสตูลสันตยาราม) จ.สตูล จัดโครงการ “เมื่อปราชญ์เป็นครู คืนความรู้สู่ชุมชน” อนุรักษ์ภูมิปัญญาการนำก้านมะพร้าวมาสานเป็นเสวียนรองหม้อ ทำขายได้ใช้เองดี ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้
วันนี้ (12 มี.ค.) นักเรียนชั้น ป.4-6 โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดสตูลสันตยาราม) จำนวน 100 คน เข้าร่วมโครงการ “เมื่อปราชญ์เป็นครู คืนความรู้สู่ชุมชน” โดยทางกองสวัสดิการ เทศบาลเมืองสตูลได้สนับสนุนวิทยากรปราชญ์ชาวบ้านจากชุมชนท่านายเนาว์ คือ นายตอเล็บ อบทอง ผู้มีความเชี่ยวชาญในการนำก้านมะพร้าวมาสานเป็นเสวียนรองหม้อ และภาชนะที่เป็นของร้อน
โดยเกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นในการนำทางมะพร้าวมาจักสานใช้ประโยชน์ในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้หากมีการต่อยอดผลิตเป็นเครื่องจักสานจำหน่าย หรือจะใช้เองภายในครัวเรือน ซึ่งประโยชน์ของต้นมะพร้าวที่มีอยู่มาก สามารถนำใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน เช่น ใบมาจักสานทำโคร๊ะห่อผลจำปาดะ ผลมะพร้าวนำมากิน และตัวลำต้นสามารถเพาะเห็ดได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งนักเรียนเทศบาล 1 ให้ความสนใจในการทำเครื่องจักสานเสวียนรองหม้อเป็นอย่างมาก โดยหลายคนเชื่อว่า ทางมะพร้าวที่หาง่ายภายในหมู่บ้าน และบ้านเรือน สามารถนำมาใช้ประโยชน์และอาจทำจำหน่ายสร้างรายได้ให้ครอบครัว โดยตลาดทั่วไปจำหน่ายในราคาเสวียนอันละ 50-80 บาทแล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่ หรือจะทำไว้ใช้เองในครัวเรือน ซึ่งหลักสูตรระยะสั้นนี้ได้เพิ่มความรู้นอกห้องเรียนได้เป็นอย่างดี และยังได้ร่วมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้อยู่คู่ชุมชนตลอดไป
นายยูโสบ ด่อล๊ะ รองนายกเทศมนตรีเมืองสตูล กล่าวว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในวาระของเทศบาลเมืองสตูล ได้จัดตั้งยกย่องปราชญ์ เพื่อดำรงไว้ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่น และถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น และเห็นถึงความสำคัญของปราชญ์ชาวบ้านกับภูมิปัญญาท้องถิ่นในเขตเทศบาลเมืองสตูล โดยได้ดำเนินการเสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ และได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา
“องค์ความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านเรื่องการแปรรูปใบจาก ถ่ายทอดสู่กลุ่มเป้าหมายเพื่อจะนำความรู้ที่ได้นั้นสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองสตูล ได้กำหนดนโยบายคุณภาพ 19 นโยบายเร่งด่วน 90 วันพัฒนาเมืองสตูลสู่ความเจริญ ที่ดีกว่านั้นในข้อ 18 ที่ว่าจะดำเนินการรวบรวมจัดตั้งและยกย่องปราชญ์ชาวบ้านตามโครงการเมื่อปราชญ์เป็นครูคืนความรู้สู่ชุมชน ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” รองนายกเทศมนตรีเมืองสตูล กล่าว