ที่หมู่บ้าน “บากันเคย” ริมชายทะเลอันดามัน หมู่ 3 ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล แห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านมีเคยหรอย (กะปิอร่อย) ที่สุดของ จ.สตูล ด้วยชื่อเสียงความอร่อยของตัวเคย (ตัวกุ้งขนาดเล็ก) ทำให้ที่หมู่ 3 บ้านบากันเคย ทำกะปิขายเป็นรายได้หลัก นอกเหนือจากการทำประมงพื้นบ้าน
ครอบครัวของ นางลีม๊ะ ฮะยีบิลัง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 115 หมู่ 3 บ้านบากันเคย ต.ตันหยงโป เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่แปรรูปตัวเคย (หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักคือตัวกุ้งขนาดเล็ก) มาทำกะปิเป็นรายได้หลักรองจากประมงพื้นบ้าน โดยสามีจะมีหน้าที่หลักในการออกเรือหาตัวเคยในท้องทะเล ซึ่งจะมีในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายนที่มีตัวเคยชุกชุม และตนก็จะมีหน้าที่นำมาแปรรูป โดยได้สูตรความหอม อร่อย จากแม่สามีที่ถ่ายทอดวิชาปรุงตัวเคยไว้ให้
โดยขั้นตอนแรกหลังได้ตัวเคยมา ก็จะนำไปล้างกับน้ำเค็มที่สะอาด เก็บเศษใบไม้หรือสิ่งที่ไม่ต้องการออก จากนั้นนำไปตากแดดแรงประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อได้ตัวเคยที่มีความแห้งปานกลางคล้ายกุ้งแห้งแล้ว นำไปคลุกกับเกลือเม็ดพักไว้ ก่อนนำเข้าเครื่องบดหยาบๆ 1 ครั้ง (ซึ่งเมื่อก่อนจะใช้ครกตำ) หมักไว้ 4-5 วัน จากนั้นนำมาตากแดดอีกประมาณ 1 ชั่วโมง (ห้ามเกินกว่านี้ อาจจะทำให้ตัวกะปิแตกตัวไม่หอมได้) หลังจากนั้นนำมาคลุกด้วยน้ำตาลทรายอีกครั้ง และบดให้เป็นเนื้อเดียวกัน หมักไว้อีกประมาณ 1 อาทิตย์ ยิ่งเก็บกะปิก็จะยิ่งส่งกลิ่นหอม พร้อมจำหน่าย
เคล็ดลับของที่นี่คือ ทุกครั้งที่มีการนำตัวเคยมาตากแดด หากมีฝนตกให้รีบเก็บทันที เพราะกะปิอาจจะเสียรสชาติ และมีสีดำกลิ่นหืน กะปิที่นี่จะขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้า ไม่เค็มจนเกินไป แต่หากลูกค้าต้องการความเค็ม ก็จะเพิ่มเกลือลงไปอีก ส่วนกะปิที่มีสีดำบ้าง สีชมพูบ้าง ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเคย หากตัวเคยนั้นหาในป่าโกงกางก็จะมีสีดำ หากหาได้นอกชายฝั่งติดทรายก็จะมีสีอมชมพู
หมู่บ้านกะปิบากันเคย ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล แห่งนี้ ไม่เคยเสื่อมเสียในเรื่องนำสิ่งของมาเจือปนในกะปิ โดยชาวบ้านที่ทำกะปิที่นี่ยืนยันว่า หากวัตถุดิบคือตัวเคยไม่มี ก็จะหยุดแปรรูป เปลี่ยนไปทำประมงประเภทอื่นแทน แต่หากถึงฤดูตัวเคยชุกชุม ก็จะหันมาทำกะปิกัน ทำให้ที่นี้มีคนมาศึกษาดูงาน และซื้อหากะปิไปบริโภคเป็นของฝากกันจนขึ้นชื่อ
สำหรับตัวเคย นอกจากจะแปรรูปเป็นกะปิแล้ว ที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังแปรรูปเป็นกุ้งส้ม หรือจะซื้อมาทานแบบสดๆ ทอดกับไข่ก็อร่อยดี หรือจะกินกะปิแบบเพรียวๆ จิ้มมะม่วงก็อร่อยน้ำลายไหล โดยราคาส่งขายกะปิ กิโลกรัมละ 90 บาท ครึ่งกิโลกรัม 45 บาท หรือต้องการแบบกระปุกๆ ละ 50 บาท ส่วนกุ้งส้มกิโลกรัมละ 50 บาท จำหน่ายขีดละ 10 บาท และกุ้งแห้งกิโลกรัมละ 180 บาท
นางหัถยา หมัดตานี ประธานกองทุนบทบาทสตรีตำบลตันหยงโป บอกว่า หมู่บ้านแห่งนี้มีแม่บ้านแปรรูปกะปิไม่น้อยกว่า 7 กลุ่มใหญ่ เพื่อส่งขายทั้งในหมู่บ้าน และนอกหมู่บ้าน ชื่อเสียงความอร่อยดังไปไกล หลายคณะมาศึกษาดูงาน และซื้อหากันถึงแหล่งผลิต ทั้งหาเอง และแปรรูปเองในราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ และสามารถซื้อหาเป็นของฝาก ปรุงได้หลากหลายเมนู และที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเลสดๆ ที่อยากให้คนที่ชื่นชอบมาแวะชิม และซื้อหาเยี่ยมชมหมู่บ้าน