xs
xsm
sm
md
lg

คณะผู้แทน OIC เยือนชุมชมพหุวัฒนธรรมสองวิถีบ้านทรายขาวโคกโพธิ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ปัตตานี - คณะผู้แทน OIC ลงเยี่ยมชมชุมชนพหุวัฒนธรรมที่มีสองวิถีชุมชนบ้านทรายขาว ณ มัสยิดนัจมุดดีน ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบการอยู่ร่วมของพี่น้องชาวไทยมุสลิม-ชาวไทยพุทธ

วันนี้ (1 มี.ค.) คณะผู้แทนองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC ซึ่งประกอบด้วย 1.Mr.salin mutlu sen เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรตุรกีประจำ OIC 2.Mr.Omar Fibril Sallah gอกอัครราชทูตแกมเบียประจำซาอุดีอาระเบีย 3.Dato Zoinol Rahim Zainuddin เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำซาอุดีอาระเบีย 4.Mr.Agus Maftuh Abegebriel เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำซาอุดีอาระเบีย 5.Mr.Majed Alqatameh กงสุลใหญ่ฮัซไมต์จอร์แดน ณ เมืองเจดดาห์ 6.Mr.Shehryar Akbar Khan กงสุลใหญ่ปากีสถาน ณ เมืองเจจดดาห์ 7.H.E.Moosa Addulla Al Noaimi รองอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศประเทศบาห์เรน และ 8.Mr.Hassan Abdien ผอ.กองมุสลิมชนกลุ่มน้อย

โดยคณะผู้แทน OIC ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ปัตตานี อีกครั้ง คราวนี้คณะได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมชุมชนพหุวัฒนธรรมที่มีสองวิถีชุมชนบ้านทรายขาว ณ มัสยิดนัจมุดดีน หรือมัสยิดบาโงยลางา อายุประมาณ 300 ปี ซึ่งชุมชนบ้านทรายขาวถือได้ว่าเป็นชุมชนต้นแบบการอยู่ร่วมของพี่น้องชาวไทยมุสลิม-ชาวไทยพุทธ
 

 
โดย พล.ต.จตุพร กลัมพสูต ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอโคกโพธิ์ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ พร้อมด้วยพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธ-ชาวไทยมุสลิม ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทน OIC มีการบรรยายสรุปจากนายอำเภอโคกโพธิ์ และชมวิดีทัศน์ความเป็นมาของมัสยิดนัจมุดีน หรือที่เรียกขานกันว่า “มัสยิดบาโงยลางา” ซึ่งตั้งอยู่ ณ บ้านควนลังงา ม.4 ตำบลทรายขาว มัสยิดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 300 ปีมาแล้ว โดยความร่วมมือระหว่างเจ้าอาวาสวัดทรายขาว กับโต๊ะอิหม่ามในสมัยนั้น 

โดยมีการสร้างหลังจากสร้างโบสถ์ของวัดทรายขาวแล้วเสร็จ ได้ขอให้เจ้าอาวาสวัดทรายขาวช่วยสร้างมัสยิดเพื่อที่จะมีสถานที่ในการประกอบพิธีละหมาด โดยมีรูปแบบที่คล้ายกับโบสถ์ในศาสนาพุทธ รูปแบบการก่อสร้างเป็นศิลปะการก่อสร้างตามแบบศิลปกรรมที่สืบทอดมาจากสถาปัตยกรรมลังกาสุกะ มัสยิดบาโงยลางาทั้งหลังสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู แต่ใช้ลิ่มไม้ นับเป็นภูมิปัญญา และความสมานสามัคคีของชาวชุมชนท้องถิ่นร่วมกันสร้างศาสนสถาน และวัฒนธรรม จนเป็นสถานที่งดงามล้ำค่าทางศิลปะแบบราชอาณาจักรลังกาสุกะ

การต้อนรับคณะผู้แทน OIC ในวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ และแสดงออกถึงความหลากหลายวัฒนธรรม มีคณะกลองยาว มโนราห์ ของพี่น้องชาวไทยพุทธ อีกทั้งในบริเวณมัสยิดยังมีประเพณีแต่งงาน (กินเหนียว) ของพี่น้องมุสลิมอีกด้วย
 


กำลังโหลดความคิดเห็น