นครศรีธรรมราช - เตือนแล้วไม่ฟัง 3 ลูกเรือชาวพม่าเปิบไข่ปลาปักเป้า ไต้ก๋งห้ามไม่ฟังชักตาตั้งตาย 2 ศพ ก่อนเรือตำรวจน้ำไปนำกลับช่วยชีวิตไว้ได้ 1 คน
วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.วินัย นิ่มฟัก สารวัตรตำรวจน้ำขนอม ประสานกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ให้เข้าตรวจสอบเรือประมงหลังมีลูกเรือประมงชาวพม่า 3 คน ประจำเรือกระแสร์สิน 31 ได้กินไข่ปลาปักเป้าเข้าไปแล้วเกิดอาการอาเจียนอย่างรุนแรง ก่อนจะเสียชีวิต 2 คน อาการสาหัส 1 คน โดยเรือตำรวจได้นำเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือกระแสร์สิน หมู่ 2 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ต่อมา พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.สิชล ได้นำพนักงานสอบสวน แพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ้งสิชล เดินทางไปที่ท่าเทียบเรือดังกล่าว พบเรือกระแสสิน 31 จอดเทียบท่า ภายในห้องพักคนงานพบผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายชิต อายุ 22 ปี และนายตาล อายุ 25 ปี ส่วน นายซูจี อายุ 34 ปี อยู่ในสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสิชล
นายวิรัตน์ ศรีวิรัตน์ อายุ 62 ปี ไต้ก๋งเรือลำดังกล่าวให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บเป็นลูกเรือชาวพม่า โดยได้ออกไปทำการประมงกว่า 10 วัน มีลูกเรือพม่า 5 คน รวมทั้งตนเองซึ่งเป็นไต้ก๋งเรือรวม 6 คน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (22 ก.พ.) ขณะที่กำลังลากอวน ลูกเรือได้ลากอวนติดปลาปักเป้าตัวใหญ่มาก
นายชิต ผู้ตายจึงเอามาทำเป็นอาหารโดยแล่เนื้อใส่เกลือตากแดดไว้ ส่วนไข่ปลาปักเป้าก็เอามาทอดกินทันที โดย นายชิต นายตาล และนายซูจี ร่วมกันรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งๆ ที่ตนเอง และลูกเรืออีก 2 คนเตือนแล้วว่า ปลาปักเป้ามีพิษ แต่ทั้ง 3 ไม่เชื่อ หลังจากนั้น เพียงประมาณ 30 นาที ปรากฏว่า นายตาล ซึ่งกินไข่ปลาปักเป้าทอดเข้าไปมากที่สุดได้อาเจียนอย่างรุนแรงก่อนจะช็อกหมดสติ และเสียชีวิตลงทันที
ต่อมาอีกประมาณ 3 ชั่วโมง นายชิต ซึ่งมีอาการไม่แตกต่างกับนายตาล ได้เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 ในขณะที่ นายซูจี มีอาการอาเจียนเช่นกันแต่ไม่รุนแรง จึงประสานงานมายังตำรวจน้ำและรีบนำเรือกลับเข้าฝั่งทันที เมื่อมาถึงก็มีเจ้าหน้าที่รีบนำ นายซูจี ส่งโรงพยาบาลสิชล แพทย์ทำการรักษาจนพ้นขีดอันตราย รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด