ชุมพร- นายอำเภอสวี เรียกประชุมด่วนแก้ปัญหาเด็กหนีเรียนมั่วสุมยาเสพติด พร้อมลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ หลังชาวบ้านพบเห็นสุดทนพฤติกรรมร้องเรียนนักข่าว แอบซุ่มถ่ายภาพเจอหลักฐานเต็มตาขณะรวมกลุ่มพี้ยาอยู่ใกล้รั้วสถานศึกษา
จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนนักข่าวสุดทนพฤติกรรมกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สวี จ.ชุมพร หนีโรงเรียนแอบไปมั่วสุมสูบหรี่ และเสพยาเสพติดอยู่เป็นประจำบริเวณริมป่าละเมาะหลังบ้านเช่า อยู่ตรงข้ามรั้วกำแพงหลังโรงเรียน และลงพื้นที่จุดเกิดเหตุตามที่ได้รับการร้องเรียนแล้วแอบซุ่มถ่ายภาพวิดีโอขณะที่เด็กนักเรียนชาย อายุระหว่าง 13-15 ปี จำนวน 6 คน อยู่ในชุดนักเรียน และชุดพลศึกษาที่กำลังมั่วสุมสูบบุหรี่ และเสพยาเสพติดจากอุปกรณ์เสพที่ทำขึ้นเองจากขวดน้ำอัดลมกันอย่างเพลิดเพลิน ตามข่าวที่เสนอนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนสวีวิทยา นายวิโรจน์ เทพพิทักษ์ นายอำเภอสวี ได้เรียกประชุมด่วนผู้เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวเพื่อสอบถามปัญหา และวางมาตรการแก้ไขป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษา โดยมี นายสำรวจ ถนอมศักดิ์ ผอ.โรงเรียนสวีวิทยา พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผกก.สภ.สวี นพ.พงษ์เธียร พันธ์พิพัฒไพบูลย์ ผอ.โรงพยาบาลสวี นายณัฐพล ใจสะอาด นายกเทศมนตรีเทศบาลนาโพธิ์ นายสมศักดิ์ โรจนพนัส ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสวีวิทยา พร้อมด้วยตำรวจ ป.ป.ส.หน่วยงานเกี่ยวข้อง เครือข่ายผู้ปกครองรวมกว่า 10 คน เข้าร่วมประชุม
นายสำรวจ ถนอมศักดิ์ ผอ.โรงเรียนสวีวิทยา ยอมรับว่า นักเรียนชายที่ปรากฏในภาพข่าวทั้ง 6 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนสวีวิทยา เรียนชั้น ม.1 จำนวน 3 คน ชั้น ม.3 จำนวน 3 คน ซึ่งได้เชิญผู้ปกครองมาพบ และส่งตัวเด็กเข้าไปตรวจรับการบำบัดที่โรงพยาบาลแล้ว โดยทั้งหมดเป็นเด็กอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีอยู่ในโรงเรียนประมาณ 40-50 คน จากนักเรียน ม.1-ม.6 จำนวน 1,950 คน สำหรับเด็กกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวจะมีทั้งเรื่องยาเสพติด และอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาเสพติดทั้งหมด ที่ผ่านมา ปัญหายาเพติดนั้นจะมีนักเรียนทั้งเสพ ทั้งค้า บางครั้งก็มีการนำมาส่งกันข้างรั้วโรงเรียน แต่ปัจจุบัน ได้มีมีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันและร่วมมือกับโรงพยาบาลสวี สาธารณสุขอำเภอสวี ในการตรวจปัสสาวะนักเรียนทุกสัปดาห์ ล่าสุด ยังมีตรวจพบปัสสาวะสีม่วงมีอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น จากเดิมมีอยู่ 6 คน แต่ปัญหาก็ยังมีอยู่บ้างเนื่องจากครูเองก็มีภาระหน้าที่ต้องสอนหนังสือ จึงอาจดูแลไม่ทั่วถึงจนเกิดปัญหาขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องจากหลายฝ่ายได้สรุปว่าปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดในสถานศึกษา โดยทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง และต้องประสานข้อมูลกัน ไม่ปิดบัง เนื่องจากลัวว่าจะเกิดผลกระทบ และความเสียหายต่อองค์กร ส่วนเด็กที่เสพยานั้นก็ต้องถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องดูแลบำบัดเยียวยาให้กลับคืนสู่สังคม ในส่วนของตำรวจ และฝ่ายปกครองก็ต้องสอบสวนขยายผลจับกุมให้ถึงผู้ค้าที่มีอยู่แทบทุกหัวระแหงทั้งในชุมชน หมู่บ้าน ในเมือง เมื่อผู้ค้าหมดไปปัญหาผู้เสพก็แทบจะไม่มี
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมผู้เกี่ยวข้อง นายวิโรจน์ เทพพิทักษ์ นายอำเภอสวี พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผกก.สภ.สวี ร.ต.ท.ธีรพงษ์ เกิดสุข รอง สวป. และฝ่ายปกครอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เด็กนักเรียนแอบไปมั่วสุมเสพยาเสพติด ซึ่งเป็นด้านหลังของห้องแถวเช่าติดกันหลายห้อง กลางวันไม่มีคนอยู่อาศัยเนื่องจากไปประกอบอาชีพ และทำงานกันหมด โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ว่างเป็นป่ามีหญ้าขึ้นรกค่อนข้างลับสายตา อยู่ตรงข้ามฝั่งถนนกับด้านหลังรั้วกำแพงของโรงเรียนสวีวิทยา ห่างกันประมาณ 50 เมตร จากการตรวจสอบพบมีร่องรอยคนเพิ่งมาทำความสะอาดไปบ้างแล้ว แต่ยังมีก้นบุหรี่ทิ้งอยู่จำนวนมาก และยังมีไฟเช็ก กับชิ้นส่วนอุปกรณ์เสพยาเสพติดที่ทำจากขวดน้ำอัดลมทิ้งอยู่ในพงหญ้าอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายอำเภอสวีได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลตรวจสอบจุดเสี่ยงดังกล่าวให้มากขึ้น