“ควนตำหนักจันทน์” ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ บนถนนป่าไม้ กลางตัวเมืองกันตัง ซึ่งได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ควนกันตัง) ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 436 (พ.ศ.2515) แต่เนื่องจากมีเนื้อที่บางส่วนติดอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกันตัง ประมาณ 350 ไร่ เมื่อปี 2518 คณะผู้บริหารเทศบาลสมัยนั้น จึงขอใช้พื้นที่ดังกล่าวจัดทำเป็นสวนสาธารณะ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
นอกจากนั้น ยังเป็นบริเวณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เหมือนกับการกำเนิดชื่อ ซึ่งได้มาจากการสร้างตำหนักเล็กๆ ขึ้นบนเนินหรือควน ในการรับเสด็จองค์รัชกาลที่ ๖ ครั้งเสร็จประพาสเมืองกันตัง เมื่อปี 2452 ครั้งยังทรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอราธิราชสยามมกุฎราชกุมาร แต่ต่อมาภายหลังถูกนำมาใช้เป็นเรือนรับรองสโมสรข้าราชการ ซึ่งล่าสุดกระทรวงวัฒนธรรม ได้คัดเลือกให้สถานที่แห่งนี้ ใช้เป็นสถานที่จัดภูมิทัศน์วัฒนธรรมของ จ.ตรัง ในอนาคต
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 2484 ทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกตามที่ต่างๆ ในประเทศไทย และส่งกำลังมาประจำตามจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ รวมถึง ต.กันตัง ที่ควนตำหนักจันทน์ กระทั่งหลังจากสิ้นสุดสงคราม สิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้ถูกรื้อถอนไปเกือบหมด คงเหลือแต่ร่องรอยของการขุดอุโมงค์ หลุมหลบภัย สนามเพลาะ และปืนใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ใช้พื้นที่นี้ส่วนหนึ่งไปสร้างโรงเรียนกันตังพิทยา โรงเรียนประจำอำเภอกันตัง ขณะที่เนินหรือควนแห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะ
ถนนรอบเนินเคยมีชื่อเรียกว่า “ถนนดัดสันดาน” เนื่องจากพระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ อดีตพ่อเมืองตรัง และบิดาแห่งยางพาราไทย ได้ไปตรวจการในแต่ละอำเภอ และได้พบพวกคนเกียจคร้าน หลังจากนั้น จึงมอบหมายให้นายอำเภอส่งคนพวกนี้ไปทำถนนตามที่ต่างๆ รวมทั้งบนควนตำหนักจันทน์ เพื่อเป็นการพัฒนาด้านคมนาคม โดยถนนสายนี้ไปสิ้นสุดบนยอดเนินที่สามารถแลเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของปากแม่น้ำตรัง ซึ่งสองฟากฝั่งหนาแน่นไปด้วยป่าโกงกางผืนใหญ่ ที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร
นายกง้วน หรือนายสรนนท์ จิโรจน์มนตรี นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง ระบุว่า สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาด้านนิเวศวิทยาได้เป็นอย่างดี เพราะมีพืชพันธุ์นานาชนิด และมีต้นไม้ดั้งเดิมขนาดใหญ่ เช่น จัน เคี่ยม พะยูง ยาง จำนวนมาก รวมทั้งยังมีไม้ดอก ไม้ประดับ สนามหญ้า ศาลาที่พัก น้ำตก จุดชมวิว หรืออื่นๆ โดยเฉพาะร้านค้าสวัสดิการกองทุนชุมชนหลาโปหลังควน ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP หรือชุมชน อาหาร เครื่องดื่ม พร้อมทั้งยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้อีกด้วย ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.
เมื่อปี 2557 ที่ทำการปกครองอำเภอกันตัง ได้รับงบประมาณจากทางจังหวัด จำนวน 3.4 ล้านบาท ให้ปรับปรุงภูมิทัศน์วัฒนธรรมควนตำหนักจันทน์ ใน 2 จุดใหญ่ ซึ่งจุดแรกคือ การปรับปรุงอุโมงค์ของเดิมที่ยาว 33 เมตร และ 17 เมตร พร้อมทำผิวภายในด้วยปูนปั้น ให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรง นอกจากนั้น ยังมีการปรับปรุงบันไดทางขึ้นอุโมงค์ ซุ้มประตูทางเข้าออก ทางเดิน พร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่าง รวมทั้งสนามเพลาะ และหลุมหลบภัย ให้มีความปลอดภัย ส่วนอีกจุดที่มีการปรับปรุงด้วยก็คือ การปรับปรุงลานชมวิว
ครูสมโชค ชมช่วยธานี อดีต ผอ.โรงเรียนวัดตรังคภูมิพุทธาวาส เทศบาลเมืองกันตัง บอกว่า ปัจจุบันสวนสาธารณะแห่งนี้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น และพื้นที่โดยรวมยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติ ที่เหมาะต่อการเดินทางมาเที่ยวชมได้ทั้งวัน โดยเฉพาะการสร้างประติมากรรมทหารญี่ปุ่น 2 นาย ให้ยืนถือปืนหน้าประตูทางเข้าอุโมงค์ นับเป็นจุดหนึ่งที่ผู้คนนิยมไปถ่ายภาพหรือเซลฟี่ รวมทั้งภายในอุโมงค์ หลุมหลบภัย สนามเพลาะ และมุมต่างๆ ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ที่ดูร่มรื่น จนชวนให้อยากมาสัมผัสอย่างมิรู้เบื่อ
