xs
xsm
sm
md
lg

บุกพิชิต!! “ยอดเขาตังกวน” ชวนไปสักการะพระธาตุเจดีย์หลวงคู่เมืองสงขลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
เมื่อพูดถึง “เขาตังกวน” ก็ไม่วายที่ต้องนึกถึงเจ้าพวก “ฝูงลิง” ซึ่งเขาตังกวนเป็นที่อาศัยของฝูงลิงจำนวนมาก บอกได้เลยว่าเจ้าลิงพวกนี้ร้ายไม่ใช่ย่อยเลย ใครถือขวดน้ำ หรือของกินผ่านเจ้าพวกนี้ รับรองต้องมีการฉกชิงของกินกันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นใครมาเที่ยวเขาตังกวน ก็ควรระมัดระวังตัวเองกันด้วย

“เขาตังกวน” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งใน อ.เมืองสงขลา เป็นเนินเขาสูง ยอดเขาตังกวนนี้ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลาได้โดยรอบ บนยอดเขาตังกวนเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลา ซึ่งสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ทุกๆ ปีในเดือนตุลาคม จะมีงานพิธีห่มผ้าองค์พระเจดีย์ และประเพณีตักบาตรเทโว และลากพระของสงขลา

ซึ่งนอกจากจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจบนยอดเขาตังกวนให้ได้สักการะบูชากันอีกด้วย
 

 
เขาตังกวนสามารถขึ้นได้ 2 ทางคือ ขึ้นลิฟท์โดยสารจากจุดบริการ ณ บริเวณถนนตัดระหว่างเขาตังกวน และเขาน้อย ค่าบริการ ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็ก 20 บาท โดยเปิดบริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น. และในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 8.00-19.00 น.

และอีกทางสามารถขึ้นโดยการเดินขึ้นบันไดฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามลิฟท์โดยสาร ตลอดระยะทางมีบันไดหินสลับกับจุดพัก และจุดชมวิวเป็นช่วงๆ โดยมีข้อดีคือสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้หลายมุม หลายระดับ ณ บริเวณบันไดนาค ก่อนถึงวิหารแดง จำนวน 145 ขั้น
 

 
บนยอดเขาตังกวน มีเจดีย์พระธาตุ พระเจดีย์หลวง เป็นอีกหนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญของเขาตังกวน พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงระฆัง สันนิษฐานว่าเป็นพระเจดีย์โบราณที่มีมานาน แต่ไม่ปรากฎหลักฐานความเป็นมาที่แน่ชัด โดยมีไว้เป็นที่สักการะบูชาของชาวเมืองสงขลาสืบต่อกันมา
 

 
นอกจากพระเจดีย์หลวงแล้ว ก็ยังมีพระพุทธรูปให้ได้สักการะบูชากันอีกด้วย ซึ่งการสักการะบูชาพระเจดีย์หลวง จะมีลำดับให้ประชาชนทราบ โดยติดหมายเลขไว้ที่เก๋งทั้ง 4 ทิศของพระเจดีย์หลวง เริ่มจากการสักการะ “พระสยามเทวาธิราช” เป็นอันดับแรก “พระพรหม” เป็นลำดับที่ 2 ทั้งหมดมี 6 จุด แต่ละจุดให้บูชาธูป 3 ดอก ส่วนเทียนให้บูชา ณ จุดใดก็ได้ตามศรัทธา รอบๆ พระเจดีย์หลวงมีตะเกียง 8 ดวง สำหรับให้จุดธูปเทียน

ลำดับถัดมาเป็น “หลวงปู่ทวด” และ “สมเด็จฯ โต” เป็นลำดับการบูชาที่ 3 และ 4 ตามลำดับการบูชาพระเจดีย์หลวง เลขหมายที่ปรากฏอยู่ที่เก๋ง จะเป็นการนำทางให้เดินลักษณะเวียนขวารอบพระเจดีย์หลวง ส่วนจะเดินจนครบ 3 รอบหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ลำดับที่ 5 เป็นจุดบูชา “พระบรมรูป รัชกาลที่ ๕” ต่อมาซุ้มที่ 6 คือ “องค์พระพุทธชินราชจำลอง” ประดิษฐานอยู่ ให้ว่าตามคำบูชาพระธาตุที่เขียนบอกไว้ให้ เป็นอันสิ้นสุดการบูชาพระเจดีย์หลวงครบทั้ง 6 จุด ตามลำดับที่บอกไว้ตรงทางเข้า
 

 
บนยอดเขาตังกวน ยังมีกรงใส่กระดิ่งที่ได้ถวายองค์พระธาตุเจดีย์ เชื่อกันว่ากระดิ่ง คือสัญลักษณ์ของความดี ความสุข ความสงบร่มเย็น การทำบุญด้วยกระดิ่งจึงเป็นการนำสิ่งที่ดีๆ ไปทำบุญ เพื่อที่จะให้สิ่งดีๆ เหล่านั้นได้สะท้อนกลับมาหาตัวผู้ทำ นอกจากกระดิ่งแล้วยังมีที่จุดประทัด ที่เผากระดาษไหว้เจ้า ปืนใหญ่โบราณ เป็นปืนใหญ่ที่เคลื่อนย้ายมาจากบริเวณเมืองเก่าเชิงเผ่า สันนิษฐานว่าเป็นปืนที่มีไว้สำหรับยิงบอกเวลา

เมื่อเดินลงมายังลานชมวิว ก็จะเจอกับรูปปั้นหล่อเหมือน “หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” ตั้งประดิษฐานอยู่ด้วย “หลวงปู่ทวด” เป็นปางสมาธิ เป็นพระอาจารย์เกจิชื่อดัง ซึ่งประชาชนในภาคใต้ให้ความเคารพนับถือ ไม่เพียงแต่ชาวภาคใต้เท่านั้น ยังเป็นที่เคารพนับถือของชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย

ขณะที่ในบริเวณเดียวกับรูปปั้นหล่อเหมือนหลวงปู่ทวด ยังมีที่สำหรับคล้องกุญแจ เหมาะกับคู่รักหรือคนมีความรัก ไม่เพียงเฉพาะความรักหนุ่มสาว แต่เป็นความรักในทุกรูปแบบ ให้รักยั่งยืนตลอดไป หรือที่เรียกว่า Love Locks บนยอดเขาตังกวน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองสงขลาได้ 360 องศาเลยก็ว่าได้
 

 
สถานที่สุดท้ายที่จะไปชม นั่นคือ “ศาลาพระวิหารแดง” จากลานพระเจดีย์หลวง จะมีทางเดินลงบันไดมายังศาลาพระวิหารแดง ลักษณะการก่อสร้าง ภายในเป็นเสามีช่อง ทางเดินทะลุถึงกัน แต่ละช่องมีขนาดเท่ากัน และเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด มองจากด้านหน้าจะทะลุไปจนถึงด้านหลัง มองจากด้านข้างด้านหนึ่ง ก็จะทะลุไปจนถึงอีกด้านหนึ่ง ช่องทางด้านหน้า และด้านหลัง ช่องทางเดินเข้าออกศาลาพระวิหารแดง คงไม่เรียกว่าประตูเพราะไม่มี ทั้งบานประตู และบานหน้าต่าง ด้านหลังเป็นทางไปบันไดนาคขึ้นยอดเขาตังกวน และพระเจดีย์หลวง ช่องด้านหน้าเป็นทางเดินลงไปยังเชิงเขาทางบันไดนาค

“เขาตังกวน” จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่หนึ่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา และได้ชื่นชมกันสืบไป
 














 
___________________________________________________________________________

เรื่อง/ภาพ : สุชาดา ศรีสวัสดิ์
 


กำลังโหลดความคิดเห็น